หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง

ชื่อร้านค้า	โจ้ลาดพร้าว - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	phatkit (0)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	phatkit48@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ส. - 15 มี.ค. 2557 - 10:51.39
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 07 ส.ค. 2557 - 09:10.07

รายละเอียด
ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงเป็นพระที่ทรงคุณวิเศษศิษย์ของสมเด็จพระวันรัตแดง ท่านมีความชำนาญจนอาจกล่าวได้ว่าสำเร็จ ผงอิทธิเจ ซึ่งเกิดจากการนำเอาผงดินสอพองผสมกับวัตถุอาถรรพณ์นานาชนิดมาเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน ส่วนใหญ่เขียนเป็นหัวใจคาถาและปลุกเสกไปพร้อมกันด้วย เมื่อลบผงดังกล่าวออกมาแล้วจึงจะเรียกว่าผงวิเศษ ที่แยกออกได้เป็น อิทธิเจ ปัถมัง มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห ผงอิทธิเจนั้น ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงมีความชำนาญมาก มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม ท่านเขียนลงผงอิทธิเจเพื่อนำมาพิมพ์พระภายในกุฏิคณะ6 วัดสุทัศน์ฯ พระศรีสัจจญามุนี(สนธิ์) ผู้อาวุโสน้อยกว่าพระครูใบฎีกาเกลี้ยง นอกจากจะมีความชำนาญด้านพระเนื้อโลหะ หมายถึงพระเครื่องคือพระกริ่งพระชัยวัฒน์และพระบูชาแล้ว ท่านยังมีความชำนาญทำผงวิเศษ คือ ผงปัถมังซึ่งมีอานุภาพทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี จังงังและล่องหนหายตัวได้่อย่างน่าอัศจรรย์ และท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการทำผงมหาราชที่มีอานุภาพทางด้านเสน่ห์มหานิผมอีกด้วย นอกจากผงวิเศษทั้งอิทธิเจ มหาราชและปัถมังที่มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์และคงกระพันชาตรีแล้วยังได้มีการรวบรวมผงตะใบพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ อีกด้วย.......... ...เรียกว่าเป็นของดีสามอาจารย์รวมอยู่ในพระเครื่ององค์จ้อยทีเดียว อีกทั้งยังได้รวบรวมพระหักจากวัดระฆังและวัดสามปลื้มอีกด้วย พระครูใบฎีกาเกลี้ยงจึงคิดพิมพ์พระผงและพระเนื้อดินทั้งแกะแม่พิมพ์เองและทั้งถอดพิมพ์พระเครื่องอื่นๆที่ใกล้ตัว ทำพระทุกวันภายในกุฏิคณะ6 ดังคำที่ท่านปรารภว่า *เราเป็นภิกษุ ปั้นพระวันละ 5 องค์ 10 องค์สืบพระศาสนา*พิมพพระไปปลุกเสกไป ทำเช่นนี้ทุกวันไม่มีผู้ช่วยนอกจากพระอาจารย์หนู(นิรันดร์ แดงวิจิตร)เมื่อบวชเป็นพระท่านเล่าว่าได้มีโอกาสช่วยท่านพระครูเกลี้ยงตำผงและพิมพ์พระ และว่าพระพิมพ์ส่วนใหญ่ของท่านพระครูเกลี้ยงจะหย่อนด้านความงามเพราะเน้นเฉพาะคุณภาพ ส่วนพระพิมพ์ที่ออกมาสวยงามนั้น ส่วนใหญ่เป็นฝีเมือกดพิมพ์ของพระอาจารย์หนูทั้งสิ้น ปีที่สร้างพระเครื่องทั้งเนื้อผงและเนื้อดินของท่านอยู่ในระหว่าง ปี พ.ศ.2476-2484

รายละเอียด

ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงเป็นพระที่ทรงคุณวิเศษศิษย์ของสมเด็จพระวันรัตแดง ท่านมีความชำนาญจนอาจกล่าวได้ว่าสำเร็จ ผงอิทธิเจ ซึ่งเกิดจากการนำเอาผงดินสอพองผสมกับวัตถุอาถรรพณ์นานาชนิดมาเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน ส่วนใหญ่เขียนเป็นหัวใจคาถาและปลุกเสกไปพร้อมกันด้วย เมื่อลบผงดังกล่าวออกมาแล้วจึงจะเรียกว่าผงวิเศษ ที่แยกออกได้เป็น อิทธิเจ ปัถมัง มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห ผงอิทธิเจนั้น ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงมีความชำนาญมาก มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม ท่านเขียนลงผงอิทธิเจเพื่อนำมาพิมพ์พระภายในกุฏิคณะ6 วัดสุทัศน์ฯ พระศรีสัจจญามุนี(สนธิ์) ผู้อาวุโสน้อยกว่าพระครูใบฎีกาเกลี้ยง นอกจากจะมีความชำนาญด้านพระเนื้อโลหะ หมายถึงพระเครื่องคือพระกริ่งพระชัยวัฒน์และพระบูชาแล้ว ท่านยังมีความชำนาญทำผงวิเศษ คือ ผงปัถมังซึ่งมีอานุภาพทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี จังงังและล่องหนหายตัวได้่อย่างน่าอัศจรรย์ และท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการทำผงมหาราชที่มีอานุภาพทางด้านเสน่ห์มหานิผมอีกด้วย นอกจากผงวิเศษทั้งอิทธิเจ มหาราชและปัถมังที่มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์และคงกระพันชาตรีแล้วยังได้มีการรวบรวมผงตะใบพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ อีกด้วย..........
...เรียกว่าเป็นของดีสามอาจารย์รวมอยู่ในพระเครื่ององค์จ้อยทีเดียว อีกทั้งยังได้รวบรวมพระหักจากวัดระฆังและวัดสามปลื้มอีกด้วย พระครูใบฎีกาเกลี้ยงจึงคิดพิมพ์พระผงและพระเนื้อดินทั้งแกะแม่พิมพ์เองและทั้งถอดพิมพ์พระเครื่องอื่นๆที่ใกล้ตัว ทำพระทุกวันภายในกุฏิคณะ6 ดังคำที่ท่านปรารภว่า ***เราเป็นภิกษุ ปั้นพระวันละ 5 องค์ 10 องค์สืบพระศาสนา***พิมพพระไปปลุกเสกไป ทำเช่นนี้ทุกวันไม่มีผู้ช่วยนอกจากพระอาจารย์หนู(นิรันดร์ แดงวิจิตร)เมื่อบวชเป็นพระท่านเล่าว่าได้มีโอกาสช่วยท่านพระครูเกลี้ยงตำผงและพิมพ์พระ และว่าพระพิมพ์ส่วนใหญ่ของท่านพระครูเกลี้ยงจะหย่อนด้านความงามเพราะเน้นเฉพาะคุณภาพ ส่วนพระพิมพ์ที่ออกมาสวยงามนั้น ส่วนใหญ่เป็นฝีเมือกดพิมพ์ของพระอาจารย์หนูทั้งสิ้น ปีที่สร้างพระเครื่องทั้งเนื้อผงและเนื้อดินของท่านอยู่ในระหว่าง ปี พ.ศ.2476-2484