พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย-พยัคฆ์ พระเครื่องเมืองไทย - webpra
VIP
"จริงใจยิ่งใหญ่ พุทธคุณให้พ้นภัย เน้นความจริงใจในบริการ" รับประกันพระแท้ 081-5551780 พยัคฆ์ พระเเท้

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย

พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย - 1พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย - 2พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย - 3
ชื่อร้านค้า พยัคฆ์ พระเครื่องเมืองไทย - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย
อายุพระเครื่อง 46 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ pichaiyuth.k@gmail.com
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 03 ก.ค. 2568 - 19:26.43
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 03 ก.ค. 2568 - 19:26.43
รายละเอียด
พระพุทธชินราช ปี2522 หลวงพ่อแดง วัดมะขาม ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ยุคต้น หายากสร้างน้อย

หลวงพ่อแดง วัดมะขาม หรือ พระครูเมธาธิการ อดีตเจ้าอาวาสวัดมะขาม ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ท่านมีนามเดิมว่าแดง รักษ์ยง พื้นเพเป็นคนคุ้งพยอมเกิด ณ หมู่ที่ ๓ บ้านโพธิพยอม (ปัจจุบันชื่อ ต. คุ้งพยอม) อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ตรงกับวันชึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเมีย โยมบิดาชื่อนายจด รักษ์ยง โยมมารดาชื่อนางแรด รักษ์ยง มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน ๔ คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ ๓ ประกอบไปด้วย
๑. นายแม้น รักษ์ยง
๒. นางเสริญ รักษ์ยง
๓. นายแดง รักษ์ยง
๔. นางด้วด รักษ์ยง
โยมบิดาและโยมมารดาของท่านมีอาชีพทำนา ฐานะทางครอบครัวปานกลางพอกินพอใช้ เมื่อวัยเด็กได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดตาลปากลัด ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ท่านมีอายุได้ ๒๑ ปี ท่านจึงได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารประจำการสังกัดกอง พลมณฑล ๕ เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๒ สังกัดทหารสื่อสารประจำจังหวัดราชบุรี เข้าประจำการรุ่น ๒๔๙๗ ซึ่งขณะที่เป็นทหารนี้ ท่านเคยร่วมรบในสงครามอินโดจีนที่เชียงตุงอีกด้วย
ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลังจากที่หลวงพ่อแดง ท่านได้ปลดประจำการ ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิโสภาราม ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๓ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับฉายาว่า "จนฺทโน" โดยมี
พระสุเมธาจารย์ วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการดวง อตฺตทีโป วัดม่วง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการโล่น วัดหัวหิน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดโพธิโสภารามเรื่อยมา เพื่อศึกษาภาษาบาลีและศึกษาพระธรรมคัมภีร์ต่างๆ เป็นเวลา ๕ พรรษา
ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ หลังจากที่หลวงพ่อแดงบวชได้ ๓ พรรษา ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๒๖ ปี ท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมตรี
ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ พรรษาที่ ๕ ท่านมีอายุได้ ๒๘ ปี ท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมโท
ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ พรรษาที่ ๖ ท่านมีอายุได้ ๒๙ ปี ท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมเอก
ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ วัดมะขาม ซึ่งเป็นวัดในพื้นที่ใกล้เคียงกับวัดโพธิโสภาราม ไม่มีพระอยู่จำพรรษา ชาวบ้านจึงไปขอนิมนต์พระภิกษุจากวัดโพธิโสภาราม ให้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดมะขาม พระที่รับนิมนต์ไปจำพรรษาที่วัดมะขามขณะนั้นมีด้วยกัน ๕ รูป คือ
๑. พระแฉะ
๒. พระสมา
๓. พระเชือน
๔. พระยวน
๕. พระแดง จนฺทโน
หลังจากที่พระทั้ง ๕ รูปได้จำพรรษาอยู่ที่วัดมะขามได้ ๑ พรรษา พอออกพรรษาแล้ว พระบางรูปก็ลาสิกขาบท บางรูปก็กลับไปอยู่ที่วัดโพธิโสภารามอย่างเดิม เหลือเพียงหลวงพ่อแดงรูปเดียวที่อยู่จำพรรษาต่อที่วัดมะขาม
ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ จากการที่วัดมะขามเหลือพระจำพรรษาแค่องค์เดียวคือหลวงพ่อแดง และด้วยที่ท่านเป็นพระที่มีจริยวัตรที่งดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านวัดมะขาม ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันขอให้ทางคณะสงฆ์แต่งตั้งท่านให้เป็นเจ้าอาวาสวัดมะขาม
วัดมะขาม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๘ ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี วัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๑ พื้นที่ตั้งวัดในสมัยนั้นเป็นป่ารกร้างมีต้นมะขามเปรี้ยวขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า วัดป่ามะขาม และเรียกสั้นๆว่าวัดมะขาม วัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๑
เมื่อหลวงพ่อแดง ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามแล้ว ท่านได้ทำการพัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการทำนุบำรุงเสนาสนะต่างๆ
ท่านได้ก่อสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ หอระฆัง เจดีย์ ซึ่งนับได้ว่าท่านเป็นพระนักพัฒนาอย่างแท้จริง
ในด้านปริยัติ ท่านได้เปิดสำนักเรียนปริยัตฺธรรม ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อสอนนักธรรมให้แก่ภิกษุสามเณรในละแวกใกล้เคียง เช่น วัดม่วง วัดโพธิโสภาราม วัดบัวงาม และวัดตาลปากลัด
ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์
ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นพระครูสอนปริยัติธรรม
ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นเจ้าคณะตำบล บ้านม่วง-นครชุมน์
ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อแดง ที่พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง ท่านจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูเมธาธิการ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๑
ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ท่านได้รับตำแหน้งเจ้าคณะตำบล และได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรชั้นโท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลกิติมศักดิ์
หลวงพ่อแดง ท่านเป็นพระที่ทรงเมตตา พูดน้อย ใจเย็น มีท่าที่น่าเลื่อมใสในแบบพระสงฆ์ ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย สมถะ รักความสงบ ท่านมีความชำนาญในภาษาไทยและภาษามอญ
ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมาจากพระครูสังวราภิวัฒน์ (ดวง อตฺตทีโป) เจ้าอาวาสวัดม่วง ซึ่งท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลายอย่างไว้มอบให้กับลูกศิษย์ที่มาเยี่ยมเยือนกราบไหว้
จากคำบอกเล่าของลุงวน เสลานนท์ ศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อได้เล่าให้ฟังว่า เคยผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลจากหลวงพ่อแดงไป ได้ถามหลวงพ่อว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อนี่เหนียว อยู่ยงคงกระพัน หรือแคล้วคลาด หรือดีทางไหน หลวงพ่อแดงท่านตอบสั้นว่า "ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้"
ท่านได้ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ตรากตรำและเหน็ดเหนื่อยจากการพัฒนาวัดและทำงานด้านสงฆ์ จนร่างกายอ่อนแอลง เป็นโรคกระดูกทับเส้น จนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลธนบุรีเมื่ออายุ ๗๘ ปี ทำให้ท่านลุกเดินช่วยเหลือตนเองไม่ได้ต้องมีคนดูแล
หลวงพ่อแดง ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา(โรคโลหิตเป็นพิษ) เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ นับรวมสิริอายุได้ ๘๙ ปี ๖๖ พรรษา.

อ้างอิง : https://www.pra-maeklong.com/2023/09/watmakam.html

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top