มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔-พ่อพัตเตอร์ - webpra
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฯ และบารมีของหลวงพ่อได้ปกปักรักษาชาวไทยให้มีแต่ความปลอดภัยด้วยเทอญ 087-9995555

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔

มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ - 1มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ - 2มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ - 3มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ - 4มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ - 5
ชื่อร้านค้า พ่อพัตเตอร์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง มีฤทธิ์มาก..เจ้าชายอังไฮ้ยี้ ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔
อายุพระเครื่อง 23 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ itsaredh@yahoo.com
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 16 ส.ค. 2560 - 11:26.01
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 20 ธ.ค. 2560 - 08:47.53
รายละเอียด
พระทุกองค์ที่ลงประมูลสามารถบูชาได้ครับ แจ้งมาได้เลยครับผม

เหรียญเจ้าชายอังไฮ้ยี้ สีเงิน ที่ระลึกในการเปิดเจดีย์ 2543 ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย๔ สวยมาก ยิงเลเซอร์ตัวเลข

ตำหนักพระแม่กวนอิมโชคชัยสี่

สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยพระอาจารย์ใหญ่กวงเซง เป็นศาสนสถานฝ่ายมหายาน การปฏิบัติของผู้ถือศีลในวัด มีกฎระเบียบเคร่งครัดมาก ผู้ที่มาบวชต้องฉันอาหารเจตลอดชีวิตและสึกไม่ได้ ต้องตั้งใจแน่วแน่ที่จะสละชีวิตทางโลก เข้าหาทางธรรมเพื่อศึกษาและมุ่งในการปฏิบัติธรรม สถาปัตยกรรมของตำหนักพระแม่กวนอิม สร้างเป็นแบบจีน บริเวณลานด้านหน้าตำหนัก มีอาคารสุขาวดี เก๋งเทพเ้จ้าฟ้าดิน และเสามังกร ที่เก๋งใหญ่ประดิษฐาน พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ ทรงประทับบนเสี่ยมชู้(คางคก) และ เจ้าชายอั้งไฮ้ยี้โพธิสัตว์ ภายในตำหนักประดิษฐานเทวรูปตามคติจีน และพระพุทธรูปจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโรงเจ และตึกวิปัสสนาสำหรับประกอบพิธีของผู้ที่มาปฏิบัติธรรม
----------------------------------------------------------------------------------------------

พระกุมารเทพอั๊งไห้ยี๊ (ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า หงไหเอ๋อ) หมายถึงพระกุมารแดง ทรงอาภรณ์สีแดง มีศาตราวุธประจำพระองค์คือ ทวนยาว สามารถพ่นไฟที่มีอำนาจร้ายแรง มีของวิเศษได้แก่ รองเท้าที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ อั๊งไห้ยี๊ จัดเป็นพระกุมารที่คนรู้จักกันมากที่สุดพระองค์หนึ่ง

อั๊งไห้ยี๊ เป็นบุตรของอ๋องกระทิงและองค์หญิงพัดเหล็ก เมื่อครั้งที่มารดาตั้งท้องได้ไปขอพระบุตรจากพระโพธิสัตว์กวนอิม พระกวนอิมโพธิสัตว์เห็นว่าเธอตั้งใจรักษาศีลกินเจ จึงได้ประทานพระกุมารน้อยให้บังเกิดในครรภ์ขององค์หญิงพัดเหล็กนั่นเอง ครั้นเมื่อเติบโตขึ้น มีอิทธิปาฏิหาริ์ย์ใช้รองเท้าขิงบิดาเดินน้ำเหาะทะยานในอากาศ สามารถพ่นไฟที่ทรงพลานุภาพ มีอาวุธคือทวนยาว แต่อาภัพเพราะบิดาไปมีภรรยาน้อยหลายคนจึงกลายเป็นเด็กมีปัญหา ต่อมาได้คบเพื่อนเลวและถูกยุยงให้ไปฆ่าพระถังมาเพื่อบริโภค พระโพธิสัตว์กวนอิมได้มอบฐานบัววิเศษให้หงอคงนำไปจับตัวอั๊งไห้ยี้ ผลสุดท้ายอั๊งไห้ยี๊ถูกจับตัวและพระถังได้เทศนาจนกลับใจ ส่วนเพื่อนเลวก็ถูกอานุภาพแห่งพระสูตรที่ชื่อว่า ปรัชญาปารมิตาสูตร ครั้นเมื่อพระถังพร้อมลูกศิษย์ร่วมกันภาวนาพระสูตรดังกล่าวเพื่อนมารก็ถึงที่ตาย อั๊งไห้ยี้ตั้งใจสำนึกตัวด้วยความผิดที่ฆ่าประชาชนตายไปในศึกที่สู้กับหงอคง จึงตั้งปณิธานไปบำเพ็ญตัวที่ภูเขาโพ่วท้อซันซึ่งเป็นพระพุทธบรรพตที่พระโพธิสัตว์กวนอิมพำนักอยู่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองอ่านกันครับ

"...ฝ่ายอั้งไฮ้ยี่ (ในสำเนียงฮกเกี้ยน หรือ ห่งไห่เอ๋อ ในสำเนียงแต้จิ๋ว) ก็หารู้ว่าเป็นกลอุบายไม่ ถือทวนไล่ตามออกมาอีก เห้งเจียก็ทอดกระบองล่าหนีมา จึงเอามือที่พระโพธิสัตว์เขียนอักขระสยายปลายออก ปีศาจอั้งไฮ้ยี่ก็ให้เคลิบเคลิ้มตั้งใจไล่เห้งเจียออกมา บัดเดี๋ยวก็แลเห็นพระโพธิสัตว์ เห้งเจียจึงหันหน้าพูดแก่อั้งไฮ้ยี่ว่า ข้ากลัวเจ้าแล้ว เจ้าไล่มาถึงน่ำไฮ้กวนอิมแล้ว เจ้ายังไม่กลับไปอีกหรือ ปีศาจไม่เชื่อก็ขยับไล่ ต่อมาเห้งเจียเห็นจวนตัวก็เข้าซ่อนตัวอยู่ข้างตัวพระโพธิสัตว์ ปีศาจเข้ามาใกล้เหลือบแลเห็นพระโพธิสัตว์จึงพูดว่า นี่เห็นจะเป็นเห้งเจียนิมนต์มากระมัง พระโพธิสัตว์ก็มิได้พูดจาว่าอะไร ปีศาจยกทวนแล้วตวาดด้วยเสียงอันดัง พระโพธิสัตว์ก็มิได้ตอบว่ากระไร ปีศาจยกทวนแทงพระโพธิสัตว์ทีหนึ่ง พระโพธิสัตว์ก็บันดาลเป็นเป็นแสงทองเหาะหนีขึ้นอยู่บนเวหา เห้งเจีย ฮุยไง้ ก็เหาะตามขึ้นไปอยู่กลางเวหา ปีศาจหัวเราะว่า อ้ายลิงมันคิดผิดไม่รู้จักเรา มันต่อสู้แก่เราหลายครั้ง ก็เอาชัยชนะเราไมได้ มันยังไปหาพระโพธิสัตว์เป๋าน่องที่ไหนมา ถูกทวนเราทีนึงก็สูญหายไปไม่เห็นเงา ทิ้งแท่นกลีบบัวอยู่นี่ ไว้เราขึ้นนั่งจึงจะดี ปีศาจก็ขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่กลางแท่น พระโพธิสัตว์เห็นดังนั้น ก็เอายอดสนชี้ลงร้องว่า ถอยคำหนึ่ง ดอกบัวนั้นก็หายไป ปีศาจก็นั่งอยู่กับมีด พระโพธิสัตว์ก็ให้ฮุยไง้เอาไม้ท้าวปราบปีศาจลงไป เคาะไปเคาะมา ที่มีดนั้น ประมาณสักร้อยที มีดก็แทงตามแข้งขาปีศาจโลหิตไหลนองไป

ฝ่ายปีศาจติดอยู่จะไปทางใดก็ไมได้ ต้องทนความเจ็บปวดสุดที่จะพรรณา ก็เอาทวนโยนทิ้ง สองมือจับมีดถอน พระโพธิสัตว์เห็นดังนั้นก็เอากิ่งสนชี้ลงไป ร่ายพระคาถา มีดนั้นก็ยิ่งมัดแน่นเข้า จะดิ้นรนไปอย่างไรก็ไม่ไหว ปีศาจรู้สึกตัวกลัวตาย ร้องให้ พูดว่า ขอพระเมตตาปราณีแห่งพระโพธิสัตว์เจ้า ข้าพเจ้าเป็นคนไม่มีแก้วตาไม่รู้จักท่านผู้มีอภินิหารบารมี แม้ท่านได้โปรดปล่อยข้าพเจ้าออก ข้าพเจ้าไม่อาจทำร้ายต่อไป จะขอปฏิบัติตามทางชอบธรรม พระโพธิสัตว์ถามว่า เจ้าจะยอมถือศีลตามอาตมาหรือไม่ ปีศาจว่าแม้ท่านยกชีวิตไว้ ข้าพเจ้าขอถือทางชอบธรรมตามท่านไป พระโพธิสัตว์ว่า ถ้ากระนั้นอาตมาจะโกนผมให้และรับศีล พระโพธิสัตว์ จึงเอามีดโกนออกจากมือเสื้อเดินเข้ามาใกล้ จับผมทำเป็นสามแหยมนอกนั้นโกนเสีย เห้งเจียเห็นดังนั้นก็หัวเราะ พูดว่าอ้ายปีศาจดูแปลกประหลาด พิเคราะห์ดูมิใช่ชายมิใช่หญิง ไม่รู้ว่าจะเหมือนรูปอะไรที่ไหน พระโพธิสัตว์ชำระเสร็จแล้วจึงพูดว่า บัดนี้เจ้าได้รับศีลแล้ว เห้งเจียก็ไม่กล้าจะพูดดูถูกได้ อาตมาจะให้ชื่อ คือให้เรียกว่า เสียนใช้ท่งจื้อ จะดีหรือไม่ ปีศาจผงกศีรษะยอม........................................................

....ฝ่ายปีศาจอั้งไฮ้ยี่จิตใจบาปยังไม่หมด และเห็นที่แข้งขามีบาดแผลยับเยิน และบนศีรษะมีผมอยู่สามหย่อม จึงคิดว่าเธอนี้มีฤทธิอานุภาพสักเท่าไหร่ อันที่จริงก็ทำแต่บังคับเราเท่านั้น คิดดังนั้นแล้ว จึงวิ่งไปเก็บเอาทวนตรงมาแทงพระโพธิสัตว์ เห้งเจียเห็นดังนั้นก็ชักกระบองออกจะตี พระโพธิสัตว์ร้องห้ามว่า อย่าทำอาตมาจะบังคับเอง พระโพธิสัตว์จึงล้วงมงคลออกจากมือเสื้อวงหนึ่ง บอกแก่เห้งเจียว่า อันมงคลนี้ เดิมพระพุทธเจ้าให้มาสามวง วงหนึ่งเรียกว่า รัตนมงคล ก็ใส่ให้เห้งเจียแล้ว อีกวงหนึ่งเรียกว่า คุ้มห้ามมงคล ใส่ให้เจ้าเฝ้าเขานั้นแล้ว วงนี้เรียกสุวรรณมงคล จะต้องใส่ให้คนนี้โดยเหตุมันเชี่ยวชาญมาก พระโพธิสัตว์พูดดังนั้นแล้วก็เอามงคลโยนขึ้นไป ร้องว่าแปลงเป็นห้าวง แล้วจับมาหมายตรงอั้งไฮ้ยี่ ขว้างไปร้องว่า ใส่ มงคลห้าวงนั้นก็สวมใส่ หัวหนึ่งวง ใส่มือสองวง ใส่เท้าสองวง แล้วพระโพธิสัตว์ก็ร่ายคาถามงคลทั้งห้านั้น ก็รัดเอาปีศาจเจ็บปวดเหลือจะทนได้ ก็หมุนล้มลงกับพื้น

ฝ่ายพระโพธิสัตว์ร่ายคาถาสองรอบสามรอบ ก็หยุดปีศาจก็หายเจ็บปวด จึงลุกขึ้นและดูในตัวที่คอและมือและเท้าทั้งสองข้าง ใส่ห่วงทองคำรึงรัดเจ็บปวดเหลือที่จะทน จะถอดออกก็อย่าพึงนึกเลยว่าจะถอดได้ คือห่วงนั้นพอกระทบเนื้อก็มีรากขึ้น ยิ่งถอดดึงก็ยิ่งเจ็บ

เห้งเจียเห็นแล้วก็หัวเราะพูดว่า พระโพธิสัตว์วิตกว่าจะเลี้ยงเจ้าไม่ใหญ่ จึงให้เจ้าใส่วงแหวน อั้งไฮ้ยี่ได้ฟังดังนั้นก็ร้อนใจวุ่นวาย ฉวยทวนไล่แทงเห้งเจีย เห้งเจียก็หลบอยู่ข้างพระโพธิสัตว์ ร้องเรียกให้พระโพธิสัตว์ร่าย พระคาถา พระโพธิสัตว์จึงเอายอดสนจุ่มน้ำมนต์พรมไปทีนึง ร้องให้ประนมมือทวนนั้นก็หล่นไป สองมือก็ประนมเข้าหว่างอก ก็เลยเปิดไม่ออก
ฝ่ายท่งจื้อเปิดมือไม่ออก จะจับทวนก็ไม่ได้ จึงรู้สึกว่าอำนาจพระบารมีของพระโพธิสัตว์นั้นเชี่ยวชาญใหญ่กล้าไม่รู้แห่งที่จะแก้ได้ด้วยประการใด จึงได้ก้มศีรษะลงเคารพต่อพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์จึงได้ร่ายพระคาถาเอาขวดมณีน้ำมนต์เทกลับคืนไปยังทะเลใหญ่ ไม่เหลือสักหยดหนึ่ง แล้วพระโพธิสัตว์จึงบอกแก่เห้งเจียว่า ปีศาจนี้มันก็ยอมแล้วแต่จิตของมันยังไม่เรียบได้ อาตมาภาพจะต้องทรมานมัน ให้เดินก้าวหนึ่งไหว้ทีหนึ่ง กว่าจะถึงเขาพ่อซัวจึงจะถอนอาคมให้มัน ........... ฝ่ายปีศาจก็กระทำความเคารพต่อพระโพธิสัตว์สามสิบห้าที

*อย่าลืมคลิ๊กรูปบ้าน(หน้าร้าน)ที่มุมบนซ้ายของจอเพื่อดูพระองค์อื่นที่ท่าน อาจจะหาอยู่นะครับ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top