หมวด หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา - หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ - เหรียญนเรศวร ยุทธหัตถี - หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว - หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก

ล็อกเก็ตหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ออกวัดท่าเตียน

ชื่อร้านค้า	รัตนินพระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	radanin (44)
ชื่อพระเครื่อง	ล็อกเก็ตหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ออกวัดท่าเตียน
อายุพระเครื่อง	51 ปี
หมวดพระ	หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา - หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ - เหรียญนเรศวร ยุทธหัตถี - หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว - หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	supatbut.p@gmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	จ. - 29 ส.ค. 2554 - 08:23.19
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 02 ม.ค. 2564 - 21:07.29

รายละเอียด
ล็อกเก็ตหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ อนุสรณ์สร้างศาลาวัดท่าเตียน (วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนาง บวช จ.สุพรรณบุรี) พ.ศ.2513 หลวงพ่อกวยร่วมปลุกเสก @ สภาพสวย โชว์ครับ ข้อมูลประกอบการพิจารณา : การปลุกเสกมงคลวัตถุหลวงพ่อมุ่ย ณ วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี พ.ศ.2513 ก่อนที่หลวงพ่อมุ่ยจะมรณภาพไม่นาน ทางวัดท่าเตียนซึ่งพระครูละม้ายเป็นเจ้าอาวาส วัดนี้อยู่อำเภอเดิมบางนางบวช พระครูละม้ายได้สร้างวัตถุมงคลในนามของหลวงพ่อมุ่ย มีพระสมเด็จ, แหนบ, แหวนนิ้ว, และอื่น ๆ ทางวัดได้นิมนต์พระมาหลายองค์ ทำการปลุกเสกที่ศาลา แต่ต้อนรับพระที่มาปลุกเสกบนกุฏิพระครูละม้าย พอจวนจะได้เวลาปลุกเสก พระเกจิอาจารย์องค์อื่นก็ทยอยกันลงไปที่ศาลาจนหมด เหลือแต่หลวงพ่อมุ่ยเพียงองค์เดียว วันนั้นหลวงพ่อมุ่ยเป็นประธานจุดเทียนชัย ยังไม่ลงไป พอดีมีรถสองแถวกลางเก่ากลางพังวิ่งเข้ามาหน้ากุฏิพอดี พระครูละม้ายได้พูดว่า หลวงพ่อกวยมา หลวงพ่อมุ่ยพอได้ยินว่าหลวงพ่อกวยมา เหมือนหนึ่งท่านกำลังคอยอยู่ ท่านได้พูดกับพระครูละม้ายว่าให้นิมนต์หลวงพ่อกวยมาบนนี้ก่อน เมื่อหลวงพ่อกวยขึ้นมาบนกุฏิ หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่าอาจารย์กวยนิมนต์ทางนี้ก่อน หลวงพ่อกวยพอเห็นหลวงพ่อมุ่ยมีอาวุโสกว่าก็เข้าไปกราบ ขณะกราบมือทั้งสองยังไม่ถึงพื้น หลวงพ่อมุ่ยได้เอามือมารับเอาไว้ แล้วพูดว่า “ท่านนี้หรือชื่อหลวงพ่อกวย” หลวงพ่อได้ตอบว่า “กระผมชื่อพระกวยครับ” หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่า “เคยได้ยินกิตติศัพท์มานาน เขาว่าเก่งนักหนา เพิ่งจะได้เห็นตัวจริงใกล้ ๆ วันนี้” ขณะที่พูดกันอยู่ ปรากฎว่าลมพายุได้พัดอื้ออึง พัดแรงขนาดสังกะสีกุฏิยวบยาบ ๆ หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่า ทำอย่างไรดีล่ะท่านกวย ทำอย่างไรจึงจะจุดเทียนชัยได้ หลวงพ่อกวยได้ตอบว่า “กระผมจะปล่อยให้หลวงพี่จุดเทียนชัยไม่ได้ ได้อย่างไร นิมนต์เถิด จวนจะได้ฤกษ์แล้ว” หลวงพ่อกวยเดินนำหน้า ส่วนหลวงพ่อมุ่ยลูกศิษย์ได้อุ้มประคองลงไป พอหลวงพ่อกวยขึ้นไปบนศาลา ได้กราบพระประธาน ขณะนั้นลมยังพัดอื้ออึงอยู่ แล้วหลวงพ่อก็เข้าที่ปลุกเสกทำสมาธิทันที ลมพายุที่พัดอื้ออึงได้หยุดพัดลงทันที หลวงพ่อมุ่ยจุดเทียนชัยได้ฤกษ์พอดี โฆษกในพิธียกไมค์มาประกาศโฆษณาทันทีว่า ลมพายุพัดอื้ออึง เพียงแค่หลวงพ่อมุ่ยเดินมาจุดเทียนชัย ลมพายุหยุดพัดทันที เกิดอัศจรรย์ขึ้นแล้ว แสดงว่าวัตถุมงคลชุดนี้จะต้องดีแน่นอน ดังแน่นอน จนกระทั่งดับเทียนชัย หลวงพ่อมุ่ยได้ให้ศิษย์อุ้มท่านมาหาหลวงพ่อกวย ท่านได้ยื่นมือมาจับมือหลวงพ่อกวยแล้วพูดว่า “เก่ง เก่งจริง ๆ ท่านกวย เก่งสมคำร่ำลือ” แล้วหลวงพ่อมุ่ยก็ล้วงย่ามหยิบรูปหล่อเล็กส่งให้หลวงพ่อกวย 1 องค์ วันนั้นแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่า เกิดอะไรขึ้น นอกจากศิษย์โข่งของหลวงพ่อ กับศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อมุ่ยสองสามคน และพระครูละม้าย วันนั้นหลวงพ่อกวยได้ยกมือไหว้ลาหลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อมุ่ยก็ยกมือไหว้ลาแล้วพูดสั่งลาเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ท่านกวย...เราคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้วนะ” (ข้อมูลจากคุณ "ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย สุพรรณบุรี" ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ และขอขอบคุณไว้ด้วยครับ)

รายละเอียด

ล็อกเก็ตหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ อนุสรณ์สร้างศาลาวัดท่าเตียน (วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนาง บวช จ.สุพรรณบุรี) พ.ศ.2513 หลวงพ่อกวยร่วมปลุกเสก @ สภาพสวย โชว์ครับ

ข้อมูลประกอบการพิจารณา : การปลุกเสกมงคลวัตถุหลวงพ่อมุ่ย ณ วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี พ.ศ.2513

ก่อนที่หลวงพ่อมุ่ยจะมรณภาพไม่นาน ทางวัดท่าเตียนซึ่งพระครูละม้ายเป็นเจ้าอาวาส วัดนี้อยู่อำเภอเดิมบางนางบวช พระครูละม้ายได้สร้างวัตถุมงคลในนามของหลวงพ่อมุ่ย มีพระสมเด็จ, แหนบ, แหวนนิ้ว, และอื่น ๆ ทางวัดได้นิมนต์พระมาหลายองค์ ทำการปลุกเสกที่ศาลา แต่ต้อนรับพระที่มาปลุกเสกบนกุฏิพระครูละม้าย พอจวนจะได้เวลาปลุกเสก พระเกจิอาจารย์องค์อื่นก็ทยอยกันลงไปที่ศาลาจนหมด เหลือแต่หลวงพ่อมุ่ยเพียงองค์เดียว วันนั้นหลวงพ่อมุ่ยเป็นประธานจุดเทียนชัย ยังไม่ลงไป พอดีมีรถสองแถวกลางเก่ากลางพังวิ่งเข้ามาหน้ากุฏิพอดี พระครูละม้ายได้พูดว่า หลวงพ่อกวยมา หลวงพ่อมุ่ยพอได้ยินว่าหลวงพ่อกวยมา เหมือนหนึ่งท่านกำลังคอยอยู่ ท่านได้พูดกับพระครูละม้ายว่าให้นิมนต์หลวงพ่อกวยมาบนนี้ก่อน เมื่อหลวงพ่อกวยขึ้นมาบนกุฏิ หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่าอาจารย์กวยนิมนต์ทางนี้ก่อน หลวงพ่อกวยพอเห็นหลวงพ่อมุ่ยมีอาวุโสกว่าก็เข้าไปกราบ ขณะกราบมือทั้งสองยังไม่ถึงพื้น หลวงพ่อมุ่ยได้เอามือมารับเอาไว้ แล้วพูดว่า “ท่านนี้หรือชื่อหลวงพ่อกวย” หลวงพ่อได้ตอบว่า “กระผมชื่อพระกวยครับ” หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่า “เคยได้ยินกิตติศัพท์มานาน เขาว่าเก่งนักหนา เพิ่งจะได้เห็นตัวจริงใกล้ ๆ วันนี้”

ขณะที่พูดกันอยู่ ปรากฎว่าลมพายุได้พัดอื้ออึง พัดแรงขนาดสังกะสีกุฏิยวบยาบ ๆ หลวงพ่อมุ่ยได้พูดว่า ทำอย่างไรดีล่ะท่านกวย ทำอย่างไรจึงจะจุดเทียนชัยได้ หลวงพ่อกวยได้ตอบว่า “กระผมจะปล่อยให้หลวงพี่จุดเทียนชัยไม่ได้ ได้อย่างไร นิมนต์เถิด จวนจะได้ฤกษ์แล้ว” หลวงพ่อกวยเดินนำหน้า ส่วนหลวงพ่อมุ่ยลูกศิษย์ได้อุ้มประคองลงไป พอหลวงพ่อกวยขึ้นไปบนศาลา ได้กราบพระประธาน ขณะนั้นลมยังพัดอื้ออึงอยู่ แล้วหลวงพ่อก็เข้าที่ปลุกเสกทำสมาธิทันที ลมพายุที่พัดอื้ออึงได้หยุดพัดลงทันที หลวงพ่อมุ่ยจุดเทียนชัยได้ฤกษ์พอดี โฆษกในพิธียกไมค์มาประกาศโฆษณาทันทีว่า ลมพายุพัดอื้ออึง เพียงแค่หลวงพ่อมุ่ยเดินมาจุดเทียนชัย ลมพายุหยุดพัดทันที เกิดอัศจรรย์ขึ้นแล้ว แสดงว่าวัตถุมงคลชุดนี้จะต้องดีแน่นอน ดังแน่นอน

จนกระทั่งดับเทียนชัย หลวงพ่อมุ่ยได้ให้ศิษย์อุ้มท่านมาหาหลวงพ่อกวย ท่านได้ยื่นมือมาจับมือหลวงพ่อกวยแล้วพูดว่า “เก่ง เก่งจริง ๆ ท่านกวย เก่งสมคำร่ำลือ” แล้วหลวงพ่อมุ่ยก็ล้วงย่ามหยิบรูปหล่อเล็กส่งให้หลวงพ่อกวย 1 องค์ วันนั้นแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่า เกิดอะไรขึ้น นอกจากศิษย์โข่งของหลวงพ่อ กับศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อมุ่ยสองสามคน และพระครูละม้าย วันนั้นหลวงพ่อกวยได้ยกมือไหว้ลาหลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อมุ่ยก็ยกมือไหว้ลาแล้วพูดสั่งลาเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ท่านกวย...เราคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้วนะ”

(ข้อมูลจากคุณ "ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย สุพรรณบุรี" ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ และขอขอบคุณไว้ด้วยครับ)