พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า สร้างโดยพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่นับถือบูชาได้อย่างสนิทใจ"

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495

พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม  กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495 - 1พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม  กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495 - 2พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม  กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495 - 3พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม  กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495 - 4
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า 2495
อายุพระเครื่อง 67 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 05 ส.ค. 2557 - 20:23.01
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 29 ก.พ. 2559 - 21:15.54
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๖๒๗
พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม กรุวัดชนะสงคราม สร้างยุคสงครามอินโดจีน เนื้อผงผสมว่าน ลงรักปิดทองเก่า แกนกลางมี ไม้เสียบอยู่ สร้างบรรจุกรุไว้ประมาณปี 2495 โดยพระเกจิหลายองค์อธิฐานจิต เช่น หลวงพ่อจง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม ท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีฤทธานุภาพมากที่ปรากฏตัวขึ้นในสมัยของพระเจ้าอโศก มหาราช (ตรงกับ พ.ศ. ๒๑๘) เพื่อมารับหน้าที่คุ้มครองบริเวณพิธีที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก จากการถูกรังควานจากพญามาร
เรื่องราวของพระอุปคุตนั้น มีปรากฏบันทึกในพระปฐมสมโพธิกถา พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ว่าเมื่อพระเจ้าอโสกมหาราชได้ทรงมีพระราชศรัทธาสร้างพระสถูปเพื่อเป็นที่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาจำนวน ๔๘,๐๐๐ องค์เรียบร้อยแล้ว เตรียมให้มีพิธีสมโภชเมื่อในสมัยที่พระเจ้าอโศกทรงโปรด ให้มีการชำระพระไตรปิฏก ด้วยเกรงจะมีความวิปลาสคลาดเคลื่อนในธรรมะ (ที่อาศัยการท่องจำสืบต่อกันมา หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน) จึงโปรดให้อัญเชิญพระอรหันต์เถระชั้นผู้ใหญ่ให้มาชุมนุมกันเพื่อตรวจทานและ ทำการจดบันทึก เรียบเรียงพระธรรมคำสอนออกเป็นหมวดหมู่ที่เรียกว่าการสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งจะต้องใช้เวลา ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จึงจะสำเร็จ ขณะนั้น พระเถระทั้งหลายพิจารณาด้วยญาณของตนก็ทราบว่างานนี้จะมีภัยอันตรายเกิดขึ้น ต่างก็ให้มีความปริวิตก ว่าในหมู่พระเถระไม่มีผู้สามารถมีฤทธิ์พอจะต้านพญามารไว้ได้ จึงได้ประชุมกันเพื่อหาวิธีแก้ไข จึงได้มีเณรน้อยรูปหนึ่งเตือนความจำทุกคนว่า ได้เคยมีพุทธพยากรณ์ไว้ว่าจะมีพระอุปคุตมา รับหน้าที่นี้โดยเฉพาะ ด้วยพระอรหันต์อุปคุตเข้าสมาบัติอยู่ใต้ทะเล จึงได้ไปอัญเชิญท่านมาคุ้มครองพิธีนี้ ในขณะนั้นพญามารต้องการจะมาขัดขวางจึงได้มาแสดงฤทธิ์ให้บังเกิดมหาวายุอย่าง ร้ายแรง, แล้วแผลงฤทธิ์เป็นลมกรด เป็นเพลิง เป็นทรายเพลิงอันเร่าร้อนด้วยไฟ เพื่อรบกวนไม่ให้สังคายนาได้สำเร็จ ด้วยเกรงว่าศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรือง แล้วความชั่วร้ายก็จะอ่อนกำลังลงเมื่อพระอุปคุตมาถึง จึงได้แสดงฤทธิ์เข้าฌานสมาบัติ อธิษฐานให้เกิดสิ่งเดียวกันแต่มีฤทธิ์มากกว่ามาต้านไว้ให้พญามารพ่ายแพ้ แล้วจึงเสกหมาเน่าไปแขวนคอพญามารไว้ให้ได้รับความอับอายแม้จะไปหาทวยเทพ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ หรือแม้แต่พระพรหมผู้ที่มีฤทธิ์มาก ก็ไม่อาจปลดหมาเน่าลงมาได้จนต้องกลับไปขอขมาท่านพระอุปคุตมหาเถระเจ้า แต่พระอุปคุตทราบ ด้วยญาณว่าพญามารหาได้สำนึกผิดไม่ จึงได้ปลดหมาเน่าลงมาแล้วใช้ผ้ารัดอกของท่านผูกพญามารไว้ที่ภูเขา จนครบ ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ข้างพญามารนั้นพยายามดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด จึงได้สำนึกถึงความกรุณาปราณีของพระพุทธเจ้า ที่เมื่อพญามารได้เคยพยายามทำร้ายพระพุทธเจ้าขณะประทับ ณ โพธิบัลลังก์ พระองค์ก็หาได้ทรมานพญามารให้ได้รับความอับอายและความทุกข์ถึงเพียงนี้ เมื่อพญามารได้สำนึกผิดแล้ว พระอุปคุตท่านจึงได้แสดงธรรมโปรดจนพญามารกลับใจตั้งจิตปรารถนาพุทธภูมิ
พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในองค์พระอุปคุตจึง นิยมที่จะสร้างรูปของท่านเป็นพระอรหันต์ที่นั่งบนดอกบัว หรือมีใบบัวปิดศีรษะ และมีรูปกุ้งหอยปูปลาอยู่ที่ฐาน นิยมแกะด้วยไม้โพธิ์ตายพรายที่ถูกฟ้าผ่าที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก หรือสร้างขึ้นด้วยเกสรดอกไม้และผงขี้เถ้าธูปบูชาพระ นำเอามาผสมผสานรวมกัน ใช้ยางรักหรือครั่งเป็นตัวประสาน และยังนิยมฝังพระธาตุหรือตะกรุด ไว้ตามข้อต่อขององค์พระอีก ๓ , ๕ , ๗ , ๙ จุด แล้วลงรัก ปิดทอง
นอกจากนี้พระอุปคุตท่านยังเป็นต้นกำเนิดของการตักบาตรเที่ยงคืน ในวัน "เป็งพุธ" (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ) โดยเชื่อกันว่าในคืนวันเป็งพุธ พระอุปคุตท่านจะแปลงกายเป็นสามเณร ออกมาโปรดญาติโยม ผู้ที่โชคดีได้ใส่บาตรพระอุปคุตใน วันดังกล่าว จะประสบความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต อุดมไปด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง จนกลายเป็นประเพณีนิยมกันในพม่า และ บางจังหวัดทางภาคเหนือของไทย


คาถาบูชาพระอุปคุต
ตั้งนะโม ๓ จบ
อุปะ คุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตะวา ปะติฎฐิโต อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะ มาหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเมฯ
(คุ้มกันภยันตราย จากภัยพิบัติทั้งปวง และอธิษฐานขอลาภ)


คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร
มหาอุปคุตโต มหาอุปคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะธิถามิ ฯ
อานิสงค์ของพระคาถาอุปคุตทั้งสองบทนี้ ท่านว่าเป็นพระคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพมาก ผู้ใดหมั่นสวดท่องบ่นภาวนาบูชาพระอุปคุตอยู่เป็นเนืองนิตย์ จะทำให้เกิดศิริมงคล เพียบพร้อมอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองจักเพิ่มพูนมากมาย อีกทั้งเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม มีตบะอำนาจให้ศัตรูผู้คิดร้ายกลังเกรงและพ่ายแพ้ ทำให้รอดปลอดโปร่งจากอุปสรรคในชีวิต ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีอานุภาพปกป้องคุ้มครอง ขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ภัยพิบัติทั้งปวง, ใช้อาราธนาทำน้ำพระพุทธมนต์ ได้ผลเป็นที่อัศจรรย์

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top