พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ-ศิลป์เจริญพร - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ศิลป์เจริญพร

พระเครื่องบางองค์ แค่เห็นก็ชอบ แค่ส่องดูก็รัก ความสุขทางกาย คุณค่าทางใจ ในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้

หมวด พระสมเด็จทั่วไป

พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ

พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ - 3

พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ - 4

พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ - 5

ชื่อร้านค้า	ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ศิลป์เจริญพร (2259)
ชื่อพระเครื่อง	พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านไ
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระสมเด็จทั่วไป
ราคาเช่า	500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	0811178991 (สะดวกรับสายเฉพาะเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ	เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	จ. - 13 ต.ค. 2568 - 18:38.44
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	จ. - 13 ต.ค. 2568 - 18:38.44

รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๕๙๓๓ พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ กล่าวกันว่าท่านได้นิมิตเห็นชีปะขาว มาแนะนำให้ไปนำหินเขียวอาถรรพณ์ ที่เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ มาสร้างพระ เมื่อท่านไปหาก็ได้พบเจอหินศรีเทพสีเขียวจริง ๆ เมื่อท่านได้มาก็เอามาป่น ผสมกับหลวงพุทธคุณเก่าเก็บของหลวงพ่อเดิม ผู้เป็นอาจารย์ ที่หลวงพ่อน้อย เก็บรวบรวมเอาไว้ในกระป๋องภายในกุฎิของท่าน และผสมกับผงวิเศษทั้งห้าที่ท่านเขียนและลบเองลงไปอีกด้วย (หลวงพ่อเดิมท่านชมหลวงพ่อน้อยว่า "ท่านไม่ต้องสะสมผงของหรอก เพราะท่านทำได้เหมือนเรา") พระชุดนี้หลวงพ่อน้อย ศิษย์กุ้นกุฎิของลพ.เดิม เป็นรุ่นมากประสบการณ์แต่พระจัดสร้างไว้ไม่มากครับ สามารถใช้แทนรุ่นแพง ๆ ของหลวงพ่อเดิม ได้สนิทใจ เพราะมวลสารภายในสมเด็จเขียวนี้ประกอบด้วย - ผงวิเศษต่าง ๆ ที่หลวงพ่อเดิมท่านจัดสร้างไว้และเก็บอยู่ในกระป๋องภายในกุฎิของท่าน - ผงวิเศษที่หลวงพ่อน้อยเขียนขึ้นเอง - หินเขียวอันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งท่านให้นำไปบดให้ละเอียด ผสมข้าวก้นบาตร และอื่น ๆ เมื่อผสมมวลสารต่าง ๆ จนเป็นหนึ่งเดียวจึงกดพิมพ์ออกมาเป็นสมเด็จเขียวดังที่เห็นในภาพนี้ล่ะครับ เนื้อหาจะมีโซนเดียว ประสบการณ์ลือลั่นครบทุกด้าน เรียกได้ว่า คนพื้นที่ ๆ มีสมเด็จเขียวต่างเก็บเงียบไม่แบ่งให้คนนอกพื้นที่ล่ะกันครับ หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ได้รับวิชาถ่ายทอดมาจนเจนจบยิ่งกว่าใครเพราะรับใช้ใกล้ชิดอยู่นานจนหลวงพ่อเดิมมรณภาพ พระครูนิพนธ์ธรรมคุต หรือหลวงพ่อน้อย เตชะปุญโญ วัดหนองโพธิ์ เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพธิ์ ที่ได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจนเชี่ยวชาญและหาตัวจับยากในยุคหลังกึ่งพุทธกาล ได้รับวิชาถ่ายทอดมาจนเจนจบยิ่งกว่าใครเพราะรับใช้ใกล้ชิดอยู่นานจนหลวงพ่อเดิมมรณภาพ พระสมเด็จชุดนี้หลวงพ่อน้อยได้นิมิตให้ไปนำหินเขียวอาถรรพณ์ที่เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์มาสร้าง เมื่อท่านไปหาก็ได้เจอจริงๆเลยเอามาป่นผสมกับหลวงพุทธคุณเก่าเก็บของหลวงพ่อเดิมผู้เป็นอาจารย์และผสมผงวิเศษทั้งห้าที่ท่านเขียนและลบเองลงไปอีกด้วย เลยทำให้ดีเข้าไปอีก พอกดพิมพ์เสร็จท่านก็จารด้านหลังด้วยตัวเองทุกองค์โดยข้างบนจารนะซ่อนหัวซึ่งเป็นยันต์ครูตัวสำคัญที่สุดของหลวงพ่อเดิม แล้วจารยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ไว้ด้านล่างซึ่งเป็นยันต์หลักของหลวงพ่อเดิมที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจนแตกฉานเช่นกัน หลวงพ่อน้อยเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน เขียนหนังสือขอมได้สวยงามเรียบร้อย หลวงพ่อเดิมจึงเรียกใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อเดิมมอบให้เป็นผู้ลงอักขระพระเครื่อง ตะกรุดและยันต์ต่าง ๆ ตลอดมา กับทั้งทำหน้าที่เลขานุการหลวงพ่อเดิมในตำแหน่ง (เจ้าคณะแขวง) เจ้าคณะอำเภอพยุหะคีรี จึงต้องเข้าประชุมแทนหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเป็นนักเทศน์อยู่หลายปี จนพระสมุห์ชุ่ม ขนฺธสโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองโพมรณภาพแล้ว หลวงพ่อเดิมก็มีอายุมากขึ้นและท่านลาออกจากเจ้าอาวาส หลวงพ่อน้อยจึงรับตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดหนองโพ และเป็นเจ้าคณะตำบลหนองโพ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๑ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี ๒๔๙๔ แล้วได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูนิพนธ์ธรรมคุต พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี เมื่อปี ๒๕๐๐ ต่อมาเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในปี ๑๕๑๒ และเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก เมื่อปี ๒๕๒๑ เมื่อหลวงพ่อเดิมมรณภาพไปแล้ว กุฏิก็เก่าชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว มูลเหตุในการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อน้อยนั้น เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านไปธุระที่ตำบลตาคลีหรือที่ไหนที่จะต้องขึ้นรถไฟ เมื่อเดินผ่านตลาดหน้าสถานีหนองโพ นางบุญยืน ไทยจงรักษ์ ก็บอกลูกชายอายุ ๔-๕ ขวบ ว่าหนู หลวงตามาแล้ว ไปธุระหลวงตาซิ ลูกเด็กก็เข้ามาไหว้หลวงพ่อ แล้วขอพระ พูดว่าหลวงตาขอพระให้ผมบ้าง ท่านก็ตอบว่า กูไม่มีว่ะ ไอ้หนู เมื่อเขาให้ไปไหว้หลวงพ่อครั้งใดก็ขอพระทุกทีหลายครั้งเข้า เด็กก็ว่าให้ว่าหลวงตานี่บวชมาตั้งหลายปีแล้วจะทำพระไว้แจกลูกหลานมั่งก็ไม่ได้ นางบุญยืน จึงว่าแก่ลูกชายว่า แกไปว่าหลวงตาอย่างนั้นได้หรือแล้วจะทำโทษเด็ก หลวงพ่อก็ห้ามว่าแกอย่าไปว่าเด็กเลยเพราะมันพูดถูกแล้ว แต่นั้นมาหลวงพ่อจึงได้เริ่มสร้างเหรียญสองหน้าขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ และเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากในคราวสร้างศาลาการเปรียญ จึงจัดทำขึ้นมาครบทุกอย่าง ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖

รายละเอียด

**รหัส ศ.ร.๒๕๙๓๓
พระสมเด็จเนื้อหินสีเทพ พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖

กล่าวกันว่าท่านได้นิมิตเห็นชีปะขาว มาแนะนำให้ไปนำหินเขียวอาถรรพณ์ ที่เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ มาสร้างพระ เมื่อท่านไปหาก็ได้พบเจอหินศรีเทพสีเขียวจริง ๆ เมื่อท่านได้มาก็เอามาป่น ผสมกับหลวงพุทธคุณเก่าเก็บของหลวงพ่อเดิม ผู้เป็นอาจารย์ ที่หลวงพ่อน้อย เก็บรวบรวมเอาไว้ในกระป๋องภายในกุฎิของท่าน และผสมกับผงวิเศษทั้งห้าที่ท่านเขียนและลบเองลงไปอีกด้วย (หลวงพ่อเดิมท่านชมหลวงพ่อน้อยว่า "ท่านไม่ต้องสะสมผงของหรอก เพราะท่านทำได้เหมือนเรา")

พระชุดนี้หลวงพ่อน้อย ศิษย์กุ้นกุฎิของลพ.เดิม เป็นรุ่นมากประสบการณ์แต่พระจัดสร้างไว้ไม่มากครับ สามารถใช้แทนรุ่นแพง ๆ ของหลวงพ่อเดิม ได้สนิทใจ เพราะมวลสารภายในสมเด็จเขียวนี้ประกอบด้วย
- ผงวิเศษต่าง ๆ ที่หลวงพ่อเดิมท่านจัดสร้างไว้และเก็บอยู่ในกระป๋องภายในกุฎิของท่าน
- ผงวิเศษที่หลวงพ่อน้อยเขียนขึ้นเอง
- หินเขียวอันเป็นของศักดิ์สิทธิ์

ซึ่งท่านให้นำไปบดให้ละเอียด ผสมข้าวก้นบาตร และอื่น ๆ เมื่อผสมมวลสารต่าง ๆ จนเป็นหนึ่งเดียวจึงกดพิมพ์ออกมาเป็นสมเด็จเขียวดังที่เห็นในภาพนี้ล่ะครับ เนื้อหาจะมีโซนเดียว ประสบการณ์ลือลั่นครบทุกด้าน เรียกได้ว่า คนพื้นที่ ๆ มีสมเด็จเขียวต่างเก็บเงียบไม่แบ่งให้คนนอกพื้นที่ล่ะกันครับ หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ได้รับวิชาถ่ายทอดมาจนเจนจบยิ่งกว่าใครเพราะรับใช้ใกล้ชิดอยู่นานจนหลวงพ่อเดิมมรณภาพ

พระครูนิพนธ์ธรรมคุต หรือหลวงพ่อน้อย เตชะปุญโญ วัดหนองโพธิ์ เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพธิ์ ที่ได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจนเชี่ยวชาญและหาตัวจับยากในยุคหลังกึ่งพุทธกาล ได้รับวิชาถ่ายทอดมาจนเจนจบยิ่งกว่าใครเพราะรับใช้ใกล้ชิดอยู่นานจนหลวงพ่อเดิมมรณภาพ พระสมเด็จชุดนี้หลวงพ่อน้อยได้นิมิตให้ไปนำหินเขียวอาถรรพณ์ที่เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์มาสร้าง เมื่อท่านไปหาก็ได้เจอจริงๆเลยเอามาป่นผสมกับหลวงพุทธคุณเก่าเก็บของหลวงพ่อเดิมผู้เป็นอาจารย์และผสมผงวิเศษทั้งห้าที่ท่านเขียนและลบเองลงไปอีกด้วย เลยทำให้ดีเข้าไปอีก พอกดพิมพ์เสร็จท่านก็จารด้านหลังด้วยตัวเองทุกองค์โดยข้างบนจารนะซ่อนหัวซึ่งเป็นยันต์ครูตัวสำคัญที่สุดของหลวงพ่อเดิม แล้วจารยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ไว้ด้านล่างซึ่งเป็นยันต์หลักของหลวงพ่อเดิมที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจนแตกฉานเช่นกัน หลวงพ่อน้อยเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน เขียนหนังสือขอมได้สวยงามเรียบร้อย หลวงพ่อเดิมจึงเรียกใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อเดิมมอบให้เป็นผู้ลงอักขระพระเครื่อง ตะกรุดและยันต์ต่าง ๆ ตลอดมา
กับทั้งทำหน้าที่เลขานุการหลวงพ่อเดิมในตำแหน่ง (เจ้าคณะแขวง) เจ้าคณะอำเภอพยุหะคีรี จึงต้องเข้าประชุมแทนหลวงพ่อเดิม
หลวงพ่อเป็นนักเทศน์อยู่หลายปี จนพระสมุห์ชุ่ม ขนฺธสโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองโพมรณภาพแล้ว หลวงพ่อเดิมก็มีอายุมากขึ้นและท่านลาออกจากเจ้าอาวาส
หลวงพ่อน้อยจึงรับตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดหนองโพ และเป็นเจ้าคณะตำบลหนองโพ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๑
และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี ๒๔๙๔
แล้วได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูนิพนธ์ธรรมคุต พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี เมื่อปี ๒๕๐๐
ต่อมาเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในปี ๑๕๑๒ และเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก เมื่อปี ๒๕๒๑
เมื่อหลวงพ่อเดิมมรณภาพไปแล้ว กุฏิก็เก่าชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว
มูลเหตุในการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อน้อยนั้น
เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านไปธุระที่ตำบลตาคลีหรือที่ไหนที่จะต้องขึ้นรถไฟ
เมื่อเดินผ่านตลาดหน้าสถานีหนองโพ นางบุญยืน ไทยจงรักษ์ ก็บอกลูกชายอายุ ๔-๕ ขวบ ว่าหนู หลวงตามาแล้ว
ไปธุระหลวงตาซิ ลูกเด็กก็เข้ามาไหว้หลวงพ่อ แล้วขอพระ พูดว่าหลวงตาขอพระให้ผมบ้าง
ท่านก็ตอบว่า กูไม่มีว่ะ ไอ้หนู เมื่อเขาให้ไปไหว้หลวงพ่อครั้งใดก็ขอพระทุกทีหลายครั้งเข้า
เด็กก็ว่าให้ว่าหลวงตานี่บวชมาตั้งหลายปีแล้วจะทำพระไว้แจกลูกหลานมั่งก็ไม่ได้
นางบุญยืน จึงว่าแก่ลูกชายว่า แกไปว่าหลวงตาอย่างนั้นได้หรือแล้วจะทำโทษเด็ก
หลวงพ่อก็ห้ามว่าแกอย่าไปว่าเด็กเลยเพราะมันพูดถูกแล้ว
แต่นั้นมาหลวงพ่อจึงได้เริ่มสร้างเหรียญสองหน้าขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔
และเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากในคราวสร้างศาลาการเปรียญ จึงจัดทำขึ้นมาครบทุกอย่าง ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖