พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี -ทองแสน108 - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ทองแสน108

ศรัทธาให้ถึง จึงบังเกิดพุทธคุณ

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี

พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี - 3

พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี - 4

พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี - 5

ชื่อร้านค้า	ทองแสน108 - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	joe_thongsan (0)
ชื่อพระเครื่อง	พระขุนแผนเทพประทานพร บรรจุหัวใจพระสิวลี ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม จังหวัดอุบลราชธานี
อายุพระเครื่อง	10 ปี
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	joe_nmd@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 12 ก.ค. 2560 - 14:42.34
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 12 ก.ค. 2560 - 14:42.34

รายละเอียด
“พระขุนแผน บรรจุหัวใจพระสิวลีเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขอได้ไหว้รับ รุ่นเทพประทานพร” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่ญาท่านอ่อง” วัดสิงหาญ จ.อุบลราชธานี ผสมมวลสารสุดยอดและแร่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ อาทิ ผงพุทธคุณหลวงปู่หมุน,ผงกระสินหลวงปู่สรวง,แป้งเสกหลวงปู่ละมัย,แร่เกาะล้าน,ทรายดำลังกาวี,สีผึ้งหลวงปู่หมุน,ผงสิวลี ญาท่านสวน,ผงมหาราช อิทธิเจ ตรีนิสิงเห เขียนเองลบเอง แร่กายสิทธิ์เหล็กไหลพันคำ ผงพุทธคุณ108 ว่าน108 ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ญาท่านกรรมฐานแพง วัดสิงหาญ เอกอุ ศิษย์ผู้น้อง ญาท่านสวน วัดนาอุดม บูรพาจารย์สายสำเร็จลุน เทพเจ้าแห่งโชคลาภแลความเมตา แห่งเมืองตระการพืชผล เป็นต้น กำหนดกดพิมพ์นำฤกษ์วันที่ 4 มีนาคม 2558 เวลา 09.09 น. ปลุกเสก (นำฤกษ์) เวลา 13.09 น. พระขุนแผนเทพประทานพร (นำฤกษ์) ตะกรุดทองคำคู่ ฝังแร่กายสิทธิ์ไหลพันคำ โรยผงตะไบเจ้าสัวอีสาน และเส้นเกศาหลวงปู่ญาท่านอ่อง เนื้อว่านมหาเสน่ห์ (ว่านดอกทอง) สร้างจำนวน 88 องค์ บูชาองค์ละ 2,000 บาท เนื้อพิเศษ (ก้นครก) สร้างจำนวน 88 องค์ บูชาองค์ละ 2,000 บาท สั่งจองได้แล้วที่ศูนย์พระเครื่องเอกคัมภีร์ ข้างวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โทร.081-658-4151, 081-6580166 กล่าวสำหรับ หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม (พระครูสถิตธรรมมงคล) หรือ"ญาท่านอ่อง" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดป่าภูธรวนาราม อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี สิริอายุ 86 พรรษา 66 เกิดในสกุล อัจฉฤกษ์ เมื่อวันวันพุธที่ 5 ก.ย.2471 เป็นชาวบ้านสะพือโดยกำเนิด อายุ 14 ปี บรรพชา โดยมีพระครูพิศาลสังฆกิจ (หลวงปู่โทน กันตสีโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ คอยอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่แพง จันทสาโร ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาอักขระขอมธรรมลาวและวิทยาคม รวมทั้งศึกษาวิชากัมมัฏฐาน อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2491 เข้าพิธีอุปสมบท มีพระครูโสภิตพิริยคุณ (หลวงปู่ฤทธิ์) วัดสระกุศกร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุนทรวิริยกิจ (ชู) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสิริปุญญรักษ์ (สวน) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ฐิตธัมโม มีความหมายว่า ผู้มีจิตตั้งมั่นในธรรม หลังอุปสมบท ปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ ขณะศึกษาธรรม ท่านได้ยมีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั่วไปด้วย ด้วยความเป็นพระหนุ่มที่ทรงความรู้ ท่านหันมาให้ความสนใจศึกษาวิทยาคม ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด ตั้งใจทบทวนวิทยาคมที่เรียนมาจากหลวงปู่แพง นอกจากนี้ ท่านยังศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่ฤทธิ์พระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นพระมหาเถราจารย์ศิษย์พระปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสายหลวงปู่สมเด็จลุน หรือ "สำเร็จลุน" วัดเวินไซ บูรพาจารย์พระเวทแห่งนครจำปาสัก ผู้เรืองวิทยาคมแห่งสองฝั่งแม่น้ำโขงไทย-ลาว ต่อมา ท่านกราบลาหลวงปู่แพงและหลวงปู่ฤทธิ์ ออกเดินท่องธุดงค์ ค้นหาครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาด้านพุทธาคม เพิ่มเติม ท่านธุดงค์ผ่านแม่น้ำโขงเข้าภูเขาควาย จนถึง ภูมะโรง จนเข้าพรรษาที่ 10 จึงเดินทางกลับวัดสิงหาญ เพื่อคอยดูแลรับใช้หลวงปู่แพง และเรียนวิชาในสายสำเร็จลุน จนหมดสิ้นวิชาทุกแขนง แม้หลวงปู่อ่อง จะสืบสายพุทธาคมมาอย่างเข้มขลัง แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่แสดงวิชาให้ใครเห็น ด้วยเคยได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่แพงว่า "หากไม่มีเหตุจำเป็น อย่าแสดงแผลงฤทธิ์เดชใดๆ”กระทั่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย.2509 หลวงปู่แพง มรณภาพชาวอำเภอตระการพืชผล นิมนต์ให้ท่านรับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ แต่หลวงปู่อ่องปฏิเสธและออกท่องธุดงควัตรและจำพรรษาในหลายสถานที่ อีกทั้งยังช่วยสร้างวัดต่างๆ อีกหลายแห่ง ครั้นถึงปี พ.ศ.2536 หลวงปู่อ่องได้กลับมายังวัดสิงหาญอีกครั้ง และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสิงหาญ ในปี พ.ศ.2547 ต่อมาพ.ศ.2550 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนามที่ พระครูสถิตธรรมมงคล ปัจจุบัน ย้ายมาพำนักจำพรรษาอยู่ ในกุฏิกลางป่าหลังวัดป่าภูธรวนาราม ต.โคกจาน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ด้วยสถานที่มีความสัปปายะหลีกเร้น จากผู้คน เหมาะสำหรับการปฏิบัติภาวนา ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงปู่อ่องจัดสร้าง ล้วนแล้วแต่เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมากอย่าง อาทิ ตะกรุดมหาเมตตา-มหาโชคลาภ-มหาแคล้วคลาดปลอดภัย 3 กษัตริย์, พระปรกใบมะขาม, เหรียญเสมามังกรคู่ และอื่นๆ อีกมากมาย

รายละเอียด

“พระขุนแผน บรรจุหัวใจพระสิวลีเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขอได้ไหว้รับ รุ่นเทพประทานพร” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่ญาท่านอ่อง” วัดสิงหาญ จ.อุบลราชธานี ผสมมวลสารสุดยอดและแร่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ อาทิ ผงพุทธคุณหลวงปู่หมุน,ผงกระสินหลวงปู่สรวง,แป้งเสกหลวงปู่ละมัย,แร่เกาะล้าน,ทรายดำลังกาวี,สีผึ้งหลวงปู่หมุน,ผงสิวลี ญาท่านสวน,ผงมหาราช อิทธิเจ ตรีนิสิงเห เขียนเองลบเอง แร่กายสิทธิ์เหล็กไหลพันคำ ผงพุทธคุณ108 ว่าน108 ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ญาท่านกรรมฐานแพง วัดสิงหาญ เอกอุ ศิษย์ผู้น้อง ญาท่านสวน วัดนาอุดม บูรพาจารย์สายสำเร็จลุน เทพเจ้าแห่งโชคลาภแลความเมตา แห่งเมืองตระการพืชผล เป็นต้น กำหนดกดพิมพ์นำฤกษ์วันที่ 4 มีนาคม 2558 เวลา 09.09 น. ปลุกเสก (นำฤกษ์) เวลา 13.09 น. พระขุนแผนเทพประทานพร (นำฤกษ์) ตะกรุดทองคำคู่ ฝังแร่กายสิทธิ์ไหลพันคำ โรยผงตะไบเจ้าสัวอีสาน และเส้นเกศาหลวงปู่ญาท่านอ่อง เนื้อว่านมหาเสน่ห์ (ว่านดอกทอง) สร้างจำนวน 88 องค์ บูชาองค์ละ 2,000 บาท เนื้อพิเศษ (ก้นครก) สร้างจำนวน 88 องค์ บูชาองค์ละ 2,000 บาท สั่งจองได้แล้วที่ศูนย์พระเครื่องเอกคัมภีร์ ข้างวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โทร.081-658-4151, 081-6580166 กล่าวสำหรับ หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม (พระครูสถิตธรรมมงคล) หรือ"ญาท่านอ่อง" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดป่าภูธรวนาราม อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี สิริอายุ 86 พรรษา 66 เกิดในสกุล อัจฉฤกษ์ เมื่อวันวันพุธที่ 5 ก.ย.2471 เป็นชาวบ้านสะพือโดยกำเนิด อายุ 14 ปี บรรพชา โดยมีพระครูพิศาลสังฆกิจ (หลวงปู่โทน กันตสีโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ คอยอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่แพง จันทสาโร ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาอักขระขอมธรรมลาวและวิทยาคม รวมทั้งศึกษาวิชากัมมัฏฐาน อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2491 เข้าพิธีอุปสมบท มีพระครูโสภิตพิริยคุณ (หลวงปู่ฤทธิ์) วัดสระกุศกร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุนทรวิริยกิจ (ชู) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสิริปุญญรักษ์ (สวน) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ฐิตธัมโม มีความหมายว่า ผู้มีจิตตั้งมั่นในธรรม หลังอุปสมบท ปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ ขณะศึกษาธรรม ท่านได้ยมีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั่วไปด้วย ด้วยความเป็นพระหนุ่มที่ทรงความรู้ ท่านหันมาให้ความสนใจศึกษาวิทยาคม ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด ตั้งใจทบทวนวิทยาคมที่เรียนมาจากหลวงปู่แพง นอกจากนี้ ท่านยังศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่ฤทธิ์พระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นพระมหาเถราจารย์ศิษย์พระปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสายหลวงปู่สมเด็จลุน หรือ "สำเร็จลุน" วัดเวินไซ บูรพาจารย์พระเวทแห่งนครจำปาสัก ผู้เรืองวิทยาคมแห่งสองฝั่งแม่น้ำโขงไทย-ลาว ต่อมา ท่านกราบลาหลวงปู่แพงและหลวงปู่ฤทธิ์ ออกเดินท่องธุดงค์ ค้นหาครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาด้านพุทธาคม เพิ่มเติม ท่านธุดงค์ผ่านแม่น้ำโขงเข้าภูเขาควาย จนถึง ภูมะโรง จนเข้าพรรษาที่ 10 จึงเดินทางกลับวัดสิงหาญ เพื่อคอยดูแลรับใช้หลวงปู่แพง และเรียนวิชาในสายสำเร็จลุน จนหมดสิ้นวิชาทุกแขนง แม้หลวงปู่อ่อง จะสืบสายพุทธาคมมาอย่างเข้มขลัง แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่แสดงวิชาให้ใครเห็น ด้วยเคยได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่แพงว่า "หากไม่มีเหตุจำเป็น อย่าแสดงแผลงฤทธิ์เดชใดๆ”กระทั่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย.2509 หลวงปู่แพง มรณภาพชาวอำเภอตระการพืชผล นิมนต์ให้ท่านรับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ แต่หลวงปู่อ่องปฏิเสธและออกท่องธุดงควัตรและจำพรรษาในหลายสถานที่ อีกทั้งยังช่วยสร้างวัดต่างๆ อีกหลายแห่ง ครั้นถึงปี พ.ศ.2536 หลวงปู่อ่องได้กลับมายังวัดสิงหาญอีกครั้ง และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสิงหาญ ในปี พ.ศ.2547 ต่อมาพ.ศ.2550 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนามที่ พระครูสถิตธรรมมงคล ปัจจุบัน ย้ายมาพำนักจำพรรษาอยู่ ในกุฏิกลางป่าหลังวัดป่าภูธรวนาราม ต.โคกจาน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ด้วยสถานที่มีความสัปปายะหลีกเร้น จากผู้คน เหมาะสำหรับการปฏิบัติภาวนา ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงปู่อ่องจัดสร้าง ล้วนแล้วแต่เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมากอย่าง อาทิ ตะกรุดมหาเมตตา-มหาโชคลาภ-มหาแคล้วคลาดปลอดภัย 3 กษัตริย์, พระปรกใบมะขาม, เหรียญเสมามังกรคู่ และอื่นๆ อีกมากมาย