
พระผง พระนางสุรัสวดี มหาเทวี
คลังพระเครื่องออนไลน์





ชื่อพระเครื่อง | พระผง พระนางสุรัสวดี มหาเทวี |
---|---|
อายุพระเครื่อง | 16 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | - |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 05 มิ.ย. 2566 - 23:31.47 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 03 มิ.ย. 2566 - 21:26.01 |
รายละเอียด | |
---|---|
ปิดท้าย พระผง พระนางสุรัสวดี มหาเทวี พระนางสุรัสวดี มหาเทวี ในพิธีมหาชะตาบารมีสิทธิ 12 ส.ค. 2552 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ข้อมูล พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสคล้ายวันเฉลิมพระ ชนมพรรษา 77 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ "ดร.จรินทร์ สวนแก้ว" ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช พร้อมด้วย พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคมและ อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท ประธานโครงการ "พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ" พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทย ร่วมใจน้อมเกล้าฯ จัด "พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชและสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า" พร้อมทั้ง "พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ" พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิซึ่งเป็นการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ยังความเป็นสิริมหามงคลและความผาสุกแก่ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี และร่วมสร้างความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เผยว่า การจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีพระชนมพรรษาครบ 77 พรรษา ซึ่งการเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญยิ่ง เพราะปีนี้จะมี พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ ในเช้าวันอังคารที่ 11 ส.ค.2552 โดยมี พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานในพิธีสงฆ์ มีพระสงฆ์ร่วมในพิธีทั้งหมด 42 รูป และอาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท ปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ยชื่อดัง เป็นประธานโครงการ "พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ" และเป็นผู้นำประกอบพิธี ซึ่งถือเป็นการสืบสานพิธีโบราณประเพณี เช่นครั้งสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิ ที่ได้จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี ตามคติความเชื่อ หากดวงพระราชชะตาของผู้ปกครองแผ่นดินแข็งแกร่ง จะนำมาซึ่งความผาสุกแก่ปวงประชาทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้เกิดความสงบร่มเย็นภายในบ้านเมือง และมีความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน "ภาพรวมการจัดงาน 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ เริ่ม ตั้งแต่เช้า วันที่ 9-10 ส.ค.2552 เป็นการแสดงกลางแจ้งบนเวทีของสถานศึกษา และสถาบันการศึกษาต่างๆ ตามด้วยพิธีอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลจำนวน 78 รูป ส่วนวันอังคารที่ 11 ส.ค.2552 พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช และ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า และพิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ สำหรับวันพุธที่ 12 ส.ค.2552 จะมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 278 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และวันสุดท้าย 13 ส.ค.2552 จะเป็นพิธีอัญเชิญเครื่องสักการะ เฉลิมพระเกียรติไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน" พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิพระพรหมวชิรญาณ กล่าวว่า "ในวันแม่ปีนี้นับว่าเป็นโอกาสดียิ่งที่สาธุชนชาวไทยจะได้เข้าร่วมพิธีบุญอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงมีพระคุณูปการสูงสุดแก่ปวงชนชาวไทย พร้อมกันนี้ พสกนิกรชาวไทยจะได้ร่วมสร้างบารมีให้แก่ตนเองและครอบครัวและประเทศชาติโดยรวม อีกด้วย" อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท กล่าวว่า "รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจากมูลนิธิ 5 ธันวามหาราชให้เป็นผู้นำประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ คือ พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ ซึ่งจะได้มีโอกาสนำสิ่งที่ตั้งใจมุ่งมั่นศึกษามาโดยตลอด เพื่อทำคุณประโยชน์ร่วมกับมูลนิธิ ตลอดจนผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน และประชาชนชาวไทย พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิวัตถุประสงค์หลักในการจัดพิธีครั้งนี้ขึ้น ถือเป็นการเจริญพระพุทธมนต์แบบอาณาจักรสุวรรณภูมิ ถวายพระพรชัยมงคล ยังความเป็นสิริมงคล ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษาในงาน "12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ" ตามตำนานในอดีตของอาณาจักรสุวรรณภูมินั้น พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ ได้จัดเป็นประจำทุกปี ส่วนหนึ่งจัดตามความเชื่อที่ว่าหากดวงพระราชชะตาของผู้ปกครอง แผ่นดินแข็งแกร่ง จะนำมาซึ่งความผาสุกแก่ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน และนอกจากนี้ยังจัดให้เป็นพิธีสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมมือร่วมใจกันถวายความจงรักภักดี และความศักดิ์สิทธิ์ระหว่างการดำเนินพิธีจะส่งผลให้ประชาชน ผู้เข้าร่วมพิธีเกิดความสงบภายในจิตใจ มณฑลพิธีในอดีตนั้นจึงเปรียบดั่งศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกคน คณะกรรมการได้พยายามดำเนินพิธีให้เป็นไปด้วยความสมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณีปฏิบัติในอดีตทุกประการ เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมหามงคลที่จะเกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังหวังว่าพิธีครั้งนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ได้รวมพลังกันด้วยความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งเชื่อว่าหากเราเป็นหนึ่งใจเดียวกันแล้วจะไม่มีอุปสรรคใดๆ ในบ้านเมืองที่เราจะฝ่าฟันไปไม่ได้ |
กำหลังโหลด Comments