รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน

รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน - 1รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน - 2รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน - 3
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ส. - 15 มี.ค. 2568 - 22:06.43
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 17 มี.ค. 2568 - 20:38.58
รายละเอียด
หลง ๆ อีกหนึ่งรายการครับ

รอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า​ ถ้ำจั๊กต่อ​ (ถ้ำพระหัตถบาทคู่)​ ต.หมอกจำแป๋ อ.เมือง​ จ.แม่ฮ่องสอน

อมตะธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
11 กันยายน 2020 ·
#รอยฝ่าพระหัตถ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลังจากพระพุทธองค์ ได้เสด็จไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โปรดพระพุทธมารดา แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จลงมาบนพื้นมนุษย์โลกในวันออกพรรษา เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพระพุทธองค์เสด็จประทับยืนที่ฐานศรีษะบันไดในท่ามกลางเทพพรหม​ และพระองค์ ได้ทรงกระทำ
"โลกวิวรรณะปาฏิหาริย์ เปิดโลกโดยอาการทอดพระเนตรไปในทิศต่าง​ ๆ รวมทั้ง เบื้องบนและเบื้องล่าง"
และในทันใดนั้น ทุกทิศทุกทางจะแลโล่งตลอดหมด ไม่มีอันใดปิดบัง เทวดาในสวรรค์จะเห็นมนุษย์ และเห็นถึงยมโลก เห็นนรก และมนุษย์ก็จะเห็นเทวดาในสวรรค์ เห็นสัตว์โลก แม้สัตว์นรกก็จะเห็นมนุษย์ ตลอดเทวดาในสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดปิดบัง
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำปาฏิหาริย์เปิดโลก พร้อมกับเปล่งฉัพพรรณรังสี ๖ ประการ เป็นมหาอัศจรรย์ พระพุทธองค์เสด็จลงจากเทวโลก โดยบันไดแก้ว ลงมาที่มนุษย์โลก ที่ป่าหิมพานต์ และพระองค์ทรงเดินบิณฑบาต ในเมืองสังกะสะนคร โดยมีเทวดา มนุษย์ และสัตว์ป่า มาใส่บาตร พระพุทธเจ้า ซึ่งในช่วงนั้นเกิดฝนห่าแก้วตกลงมา(แก้ว ๗ ประการ) ซึ่งเป็นสิ่งซึ่งอัศจรรย์มาก และพระพุทธองค์ ทรงบิณฑบาตโปรดเวไนยสัตว์ ทั้งหลายในมนุษย์โลก​ จนมาถึงเขาช้างสาร พอพระองค์ ทรงจังหันเสร็จ พระพุทธองค์ทรงตรวจดูสถานที่นั้น ด้วยทิพย จักขุญาณว่า ใต้ภูเขาช้างสารจะเป็นที่สักการะที่พึ่งและเจริญรุ่งเรือง ในช่วงที่จะสิ้นศาสนาของพระองค์ (๕,๐๐๐ พระวัสสา)
พระองค์ก็ทรงเมตตาประทับรอยพระบาทคู่ ไว้หน้าปากถ้ำดอยช้างสาร และประทับฝ่าพระหัตถ์ (ด้านขวามือ) ไว้ในถ้ำจั๊กต่อ เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงเมตตาบิณฑบาตโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายและเหมือนกับทรงปลดปล่อยความทุกข์ ของสัพพสัตว์ทั้งหลายในอบายภูมิ เป็นต้น​ จึงได้ทรงประทับฝ่าพระหัตถ์เป็นสัญลักษณ์เป็นการเปิดโลก (เปิดสวรรค์ มนุษย์ นรก) โลกทั้ง ๓ ที่ได้เสด็จบิณฑบาตไปโปรดสวรรค์ มนุษย์ นรก จะพ้นบาปกรรมและบรรลุธรรมเข้าสู่พระนิพพานในที่สุด และพระองค์ทรงอธิษฐาน ในสถานที่แห่งนี้เป็นที่พึ่งแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อจะได้เป็นที่สักการะในช่วงใกล้สิ้นศาสนาของพระองค์ (๕,๐๐๐ พระวัสสา)
มีชาวป่าคนหนึ่งได้เดินทางไปพบพระพุทธเจ้าในที่นี้ จึงเกิดความศัทธาเลื่อมใส ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ จึงขอบวชเป็นฤาษี ปฏิบัติเฝ้ารอยพระบาทคู่และฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธองค์ ในถ้ำนี้จะเป็นรอยเท้าฤาษีองค์นี้และอัฐิธาตุของฤาษีองค์นี้เหมือนกับโบราณกาล
ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประเพณีสืบกันมาช้านาน พอถึงวันออกพรรษาคือ วันเทโวโรหณะ วันที่พระพุทธเจ้าเปิดโลกก็จะทำบุญแต่งปราสาท เอาพระพุทธรูปตั้งไว้ และทำบุญตักบาตร พร้อมกับทำรูปสัตว์ป่าหิมพานต์ มีนาคเป็นต้น แห่และทำบุญตักบาตรพร้อมกันในวันนี้ โดยความหมายแล้ว ประเพณีอันนี้สืบเนื่องมาจากรอยพระพุทธบาทคู่และฝ่าพระหัตถ์
ปัจจุบันนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ถึงความเป็นมาเหล่านี้ได้ เพราะพระพุทธบาทคู่และรอยฝ่าพระหัตถ์ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิด และการเดินที่จะไปกราบสักการะบูชา ต้องเดินทางด้วยความยากลำบาก แต่มีผู้รู้บางคนวินิจฉัยว่า คงเหลือเวลาอีกไม่นานเท่าไหร่ ก็จะถูกเปิดเผย และเป็นที่สักการะบูชาของสัพพสัตว์ทั้งหลาย ในเมื่อยุคโลกาภิวัฒน์ วัตถุเจริญจนแตกสลายลงตามธรรมชาติ ตามสภาพเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่ว่ายุคไหน
พระพุทธบาทคู่และรอยฝ่าพระหัตถ์ จึงเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่รองลงมาจาก พระพุทธบาทสี่รอย(เพราะเป็นรอยของพระพุทธองค์ๆเดียวเท่านั้น) พระพุทธบาทสี่รอยเป็นพี่ (เพราะเป็นรอยของพระพุทธองค์ทั้ง ๔ พระองค์) พระพุทธบาทคู่ (ถ้ำจั๊กต่อ) เป็นน้อง​ แต่ฤาษีที่ดูแลอยู่ที่พระพุทธบาทสี่รอยเป็นน้องฤาษีที่ถ้ำพระพุทธบาทคู่ หากเกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้วมีโอกาสและเวลาแล้ว ก็ควรที่จะหาโอกาสไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาททั้งสองที่นี้ ด้วยอามิสบูชา และปฏิบัติบูชาย่อมได้ผลานิสงส์บุญบารมีตามความปรารถนา อยู่ที่ถ้ำจั๊กต่อ ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จังหวัด แม่ฮ่องสอน ครับ เป็นถ้ำน้อง พระพุทธบาท 4 รอยที่แม่ริม จว.เชียงใหม่เป็นถ้ำพี่
อานิสงส์การกราบไหว้บูชารอยพระพุทธบาท, พระพุทธหัตถ์และพระบรมสารีริกธาตุ
ในต้อนท้ายของหนังสือตำนานพระพุทธเจ้าเหยียบโลกกล่าวไว้ว่า...
"บุคคลใด คือคฤหัสถ์หรือนักบวชทั้งหลาย ทั้งหญิงทั้งชาย ได้มีใจบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ในการคัดลอกตำนานเรื่องนี้ ด้วยตนเองก็ดี ได้มีจิตรำลึกคิดถึงเรื่องราวของตำนานก็ดี ได้สักการะบูชาด้วยสิ่งของต่างๆ เป็นต้นว่า ข้าวตอก ดอกไม้ ข้าว ปลาอาหาร แก้วแหวนเงินทอง ธูปเทียน ฉัตรเงินฉัตรทอง และธงด้วยความเคารพอย่างยิ่งก็ดี ได้จดจำเรื่องราวของตำนานไว้ก็ดี ได้บอกเล่าให้ท่านผู้อื่นฟังก็ดี​ ได้แสดงความเคารพด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจก็ดี ได้เทศน์ให้คนและเทวดาทั้งหลายฟังก็ดี เมื่อเทศน์หรือเมื่อฟังด้วยความเคารพ เกิดความเลื่อมใสยินดีในพระพุทธบาทและพระบรมธาตุ ที่พระพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จไปเผยแผ่ และทรงเหยียบรอยพระพุทธบาทและประดิษฐานพระบรมธาตุไว้เมื่อครั้งพระยังทรงพระชนม์อยู่ก็ดี และเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
พระอรหันตสาวกทั้งหลายได้ อัญเชิญพระบรมธาตุไปประดิษฐานไว้ เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของคนและเทวดาทั้งหลายก็ดี บุคคลชายหญิงคฤหัสถ์และนักบวชทั้งหลายนั้น ก็จะได้ผลานิสงส์เป็นอันมาก จนไม่อาจที่จะกำหนดนับได้
ท่านทั้งหลายที่กระทำดังกล่าวมา ได้ชื่อว่าเป็น "อวินิปาตบุคคล" คือบุคคลที่ไม่มีโอกาสได้ไปเกิดในอบายภูมิทั้งสี่ มีแต่จะพุ่งดิ่งตรงต่อพระนิพพาน เพราะบุคคลผู้นั้นเสมอดังได้รู้ได้เห็น และได้ปฏิบัติอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา
ประการหนึ่ง เสมอดังได้พูดได้ คุยได้ ถามปัญหาซึ่งพระพุทธเจ้าทุกวันทุกเวลา
ประการหนึ่ง เสมอดังได้เดินตามหลังพระพุทธเจ้าทุกบาททุกก้าว
ประการหนึ่ง​ เสมอดังได้ปลูกสร้างพระเจดีย์ พระวิหารอันเป็นที่สำราญของพระบาทและ พระธาตุเจ้าทั้งหลายที่ได้กล่าวมาทุกแห่ง
ประการหนึ่ง​ เสมอดังได้บำเพ็ญกุศล ส่วนบุญด้วยปาก ด้วยกายและด้วยใจ ทุกเวลาด้วยเดชแห่งผลานิสงส์ดังนี้ จะอุปถัมภ์ค้ำชูอุดหนุนให้ตั้งอยู่ในทางสัมมาปฏิบัติ ประกอบด้วยยศศักดิ์ชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ เป็นผู้ฉลาด มีญาณปัญญายิ่งกว่าคนทั้งหลาย ภัยอันตรายต่างๆ ก็ดี โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็ดี อุบาทว์และศัตรูต่างๆ ก็ดี ย่อมระงับดับหายไป จะสัมฤทธิ์สมบูรณ์ด้วยทรัพย์ สิ่งของเงิน ทอง ข้าวเปลือก ข้าวสาร ทั้งปศุสัตว์ จักอุดมด้วยฤทธิ์เดชยิ่งนัก จะประสบสุขในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป ยิ่งกว่าคนและเทวดาทั้งหลาย หากมีบุญสมภารมาก ก็จะได้ถึงพระนิพพานในศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมะนั้นแน่นอน
.
#ตำนานพระพุทธหัตถ์
พระพุทธศาสนาได้กล่าวถึง เรื่องราวเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าการลอยกายขึ้นไปบนอากาศ การเดินบนน้ำ การย่นระยะทาง และต่าง​ ๆ อีกมาก
มีเรื่องเล่าไว้ว่า สมัยหนึ่งพระพุทธองค์ทรงเสด็จมายังแถบสุวรรณภูมิ ด้วยการเหาะมาทางอากาศ และได้ประทับรอยพระบาท และรอยพระหัตถ์ไว้ตามสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน​ แต่โดยมากแล้วจะประทับรอยพระพุทธบาทเอาไว้ ซึ่งตำนานที่พระพุทธเจ้าเสด็จมายังสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะแถบภาคเหนือหรือล้านนานั้น มีบันทึกเป็นตำนานเรียกว่า ตำนานพระเจ้าเหยียบโลก หมายถึง การเดินทางของพระพุทธเจ้าไปตามสถานที่ต่าง​ ๆ​ เพื่อโปรดสรรพสัตว์นั่นเอง หนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุด ที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมายังแถบสุวรรณภูมิ คือ ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรอยพระบาทคู่ และสิ่งที่เป็นหัวใจของถ้ำแห่งนี้คือ รอยพระหัตถ์ข้างขวา ซึ่งนับเป็นสิ่งที่หายากที่สุด
สำหรับตำนานของสถานที่แห่งนี้เล่ากันไว้ว่า สมัยที่พระพุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น พระพุทธองค์ทรงได้ขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา ๑ พรรษา เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วพระพุทธองค์ทรงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลก ทำให้นรก โลกมนุษย์ และเทวดาได้เห็นซึ่งกันและกัน จากนั้นพระพุทธองค์ได้ตรวจดูด้วยพระญาณว่า สถานที่แห่งใดจะเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธศาสนาในกาลข้างหน้า
พระองค์ทรงทราบว่า สุวรรณภูมิจักเป็นที่ประดิษฐาน และทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง พระพุทธองค์ จึงได้ทำปาฏิหาริย์เสด็จมายังสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยพระอรหันตสาวก มาทางอากาศ​ เพื่อทำการโปรดสรรพสัตว์ เล่าว่าพระพุทธองค์ทรงมาโปรดประทับรอยพระบาท ที่พระบาทสี่รอยก่อน เพื่อโปรดฤาษีที่บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่เขาแห่งนี้ด้วย พระฤาษีตนดังกล่าว มีน้องบวชเป็นฤาษีจำศีลภาวนาอยู่ที่ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน ด้วย
เมื่อทำการประทับรอยพระพุทธบาทที่พระบาทสี่รอย เรียบร้อยแล้ว พระพุทธองค์ทรงจึงได้เสด็จไปโปรดฤาษีผู้น้องต่อไป และที่นั่นพระพุทธองค์ ได้ประทับรอยพระบาทคู่ พร้อมทั้งรอยพระพุทธหัตถ์เอาไว้ เพื่อเป็นที่สักการะของผู้ศรัทธา
ตามตำนานกล่าวว่า รอยพระหัตถ์ข้างซ้ายนั้นประทับอยู่ในเมืองพม่า ลักษณะของรอยพระหัตถ์ที่ประทับลงบนแผ่นหินนั้น มีลักษณะใหญ่ นิ้วมือทั้ง ๕ เสมอกัน มีรอยก้นหอยชัดเจน
มีผู้คนนำทองคำเปลวไปปิดจนเห็นเป็นสีทองอร่ามไปทั่ว เล่าว่า ถ้ำรอยพระหัตถ์แห่งนี้ เป็นสถานที่หวงแหนของเทพเทวดา มีพญานาคคอยรักษาอยู่ แม้ว่ามีหลายกลุ่มบุคคลพยายามทำการบุกเบิก แต่ก็ไม่สามารถทำได้
คล้ายกับว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างพยายามปกปิดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เอาไว้ ด้วยเกรงว่าเมื่อคนเข้ามามากแล้วจะทำให้สถานที่ขาดความสงบและสกปรกได้ การเดินทางไปยังถ้ำพระพุทธหัตถ์ หรือถ้ำจั๊กต่อแห่งนี้นั้นนับว่ายากลำบากพอสมควร สถานที่ตั้งถ้ำแห่งนี้อยู่ที่บ้านหมอกจำแป่ ซึ่งไกลออกไปจากอำเภอปายนับร้อยกิโล
หากเดินทางจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ ต้องใช้เวลาอย่างต่ำถึง ๗ ชั่วโมงด้วยกัน รถของทางทีมงานต้องจอดไว้ที่ฝายน้ำ จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปเป็นระยะทางประมาณ ๑ กิโล ใช้เวลาเดินทางร่วมชั่วโมง ธรรมชาติโดยรอบนั้นเป็นป่าเบญจพรรณ มีต้นสักขึ้นเป็นจำนวนมาก
ทางขึ้นค่อนข้างลาดชันพอสมควร ทำให้การเดินทางขาขึ้นเป็นไปได้อย่างช้าๆ และต้องหยุดพักกันเป็นระยะๆ สิ่งที่แปลกคือ การเดินทางขึ้นเขาเพื่อไปสักการะรอยพระหัตถ์นั้น บรรยากาศรอบตัวร้อนมาก แต่ทันทีที่ไปถึงถ้ำรอยพระหัตถ์แล้ว บรรยากาศกลับเย็นลงอย่างผิดสังเกตุ
ความเย็นจากภายในถ้ำฝ่าพระหัตถ์นั้นเรียกว่าเย็นจนหนาวเข้าไปข้างใน นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ไม่น้อย จนบางคนที่มาสัมผัสเชื่อว่า นี่เป็นอีกหนึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของรอยพระหัตถ์ที่ประทับไว้ ณ ที่นี่
ตามตำนานกล่าวว่า การที่พระพุทธองค์ประทับรอยพระหัตถ์ลงในแผ่นหินนั้น เป็นการแสดงฤทธิ์ของพระพุทธองค์วิธีหนึ่ง เล่าว่า ยามที่พระพุทธองค์ประทับรอยพระหัตถ์นั้น หินจะอ่อนนิ่มลงไป ทั้งยังขยายขนาดออกไปเป็นพิสดาร
ดังนั้น รอยพระหัตถ์และรอยพระบาทที่พระองค์ทรงประทับไว้ จึงมีขนาดใหญ่กว่ารอยฝ่ามือ ฝ่าเท้าของคนธรรมดาทั่วไป เป็นที่เชื่อกันว่า ร่างกายของพระพุทธองค์นั้นเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นเส้นเกศา อัฐิที่เรียกว่าพระบรมสารีริกธาตุ หรือรอยพระบาทและรอยพระหัตถ์ สำหรับรอยพระหัตถ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งพิเศษ เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งการห้ามบาปทั้งปวง
เพราะยามเมื่อพระพุทธองค์ไปโปรดสัตว์ที่กำลังจะทำบาป พระองค์จะยกมือ (พระหัตถ์ขึ้นปราม) หรือการประทานพรก็ดี พระองค์จะทำการยกมือประทานพรให้ ดังนั้น พระหัตถ์ของพระพุทธองค์จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ทรงพลังและเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นมงคลอย่างที่สุด
ฯลฯ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top