หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

พระสมเด็จคะแนนกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก

พระสมเด็จคะแนนกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก - 3

พระสมเด็จคะแนนกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก - 4

พระสมเด็จคะแนนกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก - 5

ชื่อร้านค้า	wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	wison (207)
ชื่อพระเครื่อง	พระสมเด็จคะแนนกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	15,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	0819460502
อีเมล์ติดต่อ	wison41505@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 07 ก.ค. 2553 - 19:59.51
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 23 มิ.ย. 2564 - 22:21.01

รายละเอียด
พระพิมพ์สมเด็จกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก สร้างเพียง ๘๔๐ องค์ หาชมยากมาก นานๆ จะมีมาให้ชม คนท่าวุ้งยังไม่ค่อยเจอกันครับ พิเศษ แถมพร้อมนางกวักจากกรุเดียวกัน เนื้อผงล้วนๆ ผงเกราะเพชรของหลวงพ่อปาน (นางกวักตอนนี้ราคา 2000 แล้วครับ) เนื้อพระ-ทรงพิมพ์และมวลสาร พระทรงเสือ และทรงสิงห์ เป็นพระเนื้อดิน ทรงสี่เหลี่ยมพืนผ้า ขนาดประมาณ ๑,๕ ซม.x ๒.๕ ซม. หนา-บางไม่ยุติ เนื้อพระและอายุใกล้เคียงกับพระหลวงพ่อปาน โดยเฉพาะเนื้อหาของดินเป็นลักษณะของดินขุยปูที่มีอยู่ทั่วไปแถบอยุธยาและมี ขนาดใกล้เคียงพระพิมพ์ทรงนกของหลวงพ่อปานเป็นอย่างมากซึ่งจะมีลักษณะ มีเม็ดแร่กระจายอยู่ทั้งองค์ทั้งสีขาวสีดำ หรือที่ภาษาพระเรียก แร่หมัดไฟ แบบพระเนื้อดินสกุลอยุธยาทั่วไป มีแร่ทรายเงินทรายทองบ้างประปรายตามแบบฉบับของดินแม่น้ำ และที่สำคัญทุกองค์จะต้องมี คือ เม็ดมวลสาร สีขาวขุ่น ลักษณะเป็นผลึกบ้าง เป็นเนื้อฟูๆบ้าง ซึ่งผลึกขาวขุ่นนี้ ภาษาพระเรียก แกลบขาว ซึ่งปรากฏอยู่กับพระเนื้อดินที่สร้างช่วงปี ๒๔๗๐ ของหลายเกจิในยุคนั้น เช่น พระเนื้อดินของหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด จังหวัดอยุธยา หรือหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี หรือแม้แต่พระนางพญากรุวัดเวียงอยุธยาก็มีผงประเภทนี้ผสมอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ คงเรียก แกลบขาว แต่ผลึกที่เป็นผงฟูๆ นี้เป็นผงอิทธิเจเก่าสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ได้มาจากวัดสัมฤทธิ์ ที่หลวงพ่อผาดนำไปจากลพบุรีเพื่อผสมลงในเนื้อพระที่ได้จัดสร้างขึ้นซึ่งผงขาวนี้เป็นความต่างจากพระของหลวงพ่อปานประการหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะกล่าวถึงในเรื่องผงวัดสัมฤทธิ์นี้ต่อไป พระทรงเสือและทรงสิงห์ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธ นั่งสมาธิขัดเพชร บนฐานสูง มีเส้นซุ้มล้อมรอบ(คล้ายกับพระพิมพ์ประภามณฑลของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่ายุคต้นๆ) เบื้องล่างเป็นรูปสัตว์มีอยู่สองชนิดคือ ทรงเสือและทรงสิงห์ ด้านบนขององค์พระมีรูเจาะและอุดผงพุทธคุณปิดด้วยซีเมนต์อีกชั้นหนึ่งคล้าย กับพระพิมพ์ของหลวงพ่อปาน บางองค์จะมีการทาชาดแดงทับก่อนปิดด้วยซีเมนต์อีกชั้นหนึ่งก็มี ด้านหลังและขอบด้านข้างส่วนใหญ่จะมีรอยปาด รอยตัดเข้ารูป หรือบางองค์ด้านหลังก็มีรอยนิ้วมือของผู้กดพิมพ์ปรากฏอยู่ สัณฐานพระเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมตัดมุมหรือแปดเหลี่ยมเหมือนพระของหลวงพ่อปานเลยทีเดียว ส่วนผงที่อุดรูผงนั้นเป็นผงที่ได้จากการเขียนยันต์และบริกรรมคาถากำกับแต่ละ บทที่มีพุทานุภาพอันทรงประโยชน์เช่น ยันต์เกราะเพชร แล้วลบออก แล้วเขียนซ้ำใหม่แบบนี้หลายๆครั้งจนได้ผงวิเศษออกมาโดยหลวงพ่อปานแห่ง วัดบางนมโค นอกจากพิมพ์ทรงเสือและสิงห์แล้วยังพบพระเนื้อดินเผาพิมพ์สมเด็จคะแนน ขนาดเล็กด้านหน้าเป็นรูปพระประธาน ด้านหลังเรียบ บางองค์ก็เป็นหลังประทุน ด้านบนเจาะรูอุดผง ซึ่งเป็นพระคะแนนนับจำนวน คาดว่าน่าจะมีประมาณ ๘๔๐ องค์ และพระพิมพ์รูปนางกวักสร้างจากเนื้อผงพุทธคุณล้วนๆ โดยมีทั้งผงของหลวงพ่อปานและผงที่ได้จากวัดสุทัศน์เป็นมวลสารหลัก ที่เหลือคือผงเก่าจากวัดสัมฤทธิ์ แต่นางกวักนี้มีจำนวนไม่มากนัก ประมาณ ๑ กระบุง(คาดว่าน่าจะประมาณหนึ่งพันองค์เศษ) ประวัติ วัดดงตาล (วัดสามัคคีธรรม) ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เดิมเป็นวัดร้าง ได้บูรณะขึ้นใหม่เมื่อสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมา หมอผาด เกษตรง เจ้าของร้านขายยาพระอาทิตย์เวชโอสถ บางลำพู กรุงเทพฯ ได้มาเป็นผู้นำในการสร้างอุโบสถ และหล่อพระประธานขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗ หมอ ผาด เป็นผู้มีความรู้ทางวิชาอาคม ในการหุงน้ำมันมนต์ และปรุงยาโบราณ ขณะเดียวกันก็มีความคุ้นเคยกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดียิ่ง จึงได้ขอให้หลวงพ่อปานช่วยสร้างพระเครื่อง สำหรับบรรจุกรุในพระอุโบสถตามธรรมเนียมประเพณีนิยมแห่งการสร้างพระอุโบสถมา แต่โบราณ หลวงพ่อปาน จึงได้สร้างเป็นพระพิมพ์ พระพุทธรูปประทับสิงห์พิมพ์หนึ่ง ประทับเสือพิมพ์หนึ่ง และพระสมเด็จคะแนนเป็นพระเนื้อดินขนาดเล็ก ตัดขอบ ด้านบนเจาะบรรจุผงวิเศษ แบบเดียวกับพระที่ท่านสร้างขึ้นที่วัดบางนมโค รวมทั้งนางกวักเนื้อผงล้วนๆอีกพิมพ์หนึ่ง หลังจากหลวงพ่อปานปลุกเสก พระชุดนี้ทั้งหมดแล้ว ก็มอบให้หมอผาดนำใส่กล่องไม้ลงเรือล่องมาตามแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา มาขึ้นที่คลองหลังวัดดงตาล ต่อมาหมอผาดได้บวชเป็นพระภิกษุ จำพรรษาอยู่ที่วัดดงตาล เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก เพราะหมอผาดเป็นพระหมอที่เก่งในการรักษาโรคกระดูก โรคเส้น ฯลฯ ด้วยน้ำมนต์ และมีดโต้ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับรักษาโรคประจำตัว จนได้ฉายาว่า หลวงพ่อผาด มีดโต้ เมื่อท่านสร้างอุโบสถวัดดงตาลแล้วเสร็จ จึงได้นำพระพิมพ์ประทับหลังสิงห์และเสือ บรรจุไว้บนฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระประธาน ซึ่งหล่อด้วยโลหะขึ้นประดิษฐานครอบไว้ จากนั้นจึงก่ออิฐถือปูน เป็นบัวคว่ำคตอยไว้

รายละเอียด

พระพิมพ์สมเด็จกรุวัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก สร้างเพียง ๘๔๐ องค์ หาชมยากมาก นานๆ จะมีมาให้ชม คนท่าวุ้งยังไม่ค่อยเจอกันครับ

พิเศษ แถมพร้อมนางกวักจากกรุเดียวกัน เนื้อผงล้วนๆ ผงเกราะเพชรของหลวงพ่อปาน (นางกวักตอนนี้ราคา 2000 แล้วครับ)

เนื้อพระ-ทรงพิมพ์และมวลสาร
พระทรงเสือ และทรงสิงห์ เป็นพระเนื้อดิน ทรงสี่เหลี่ยมพืนผ้า ขนาดประมาณ ๑,๕ ซม.x ๒.๕ ซม. หนา-บางไม่ยุติ เนื้อพระและอายุใกล้เคียงกับพระหลวงพ่อปาน โดยเฉพาะเนื้อหาของดินเป็นลักษณะของดินขุยปูที่มีอยู่ทั่วไปแถบอยุธยาและมี ขนาดใกล้เคียงพระพิมพ์ทรงนกของหลวงพ่อปานเป็นอย่างมากซึ่งจะมีลักษณะ มีเม็ดแร่กระจายอยู่ทั้งองค์ทั้งสีขาวสีดำ หรือที่ภาษาพระเรียก แร่หมัดไฟ แบบพระเนื้อดินสกุลอยุธยาทั่วไป มีแร่ทรายเงินทรายทองบ้างประปรายตามแบบฉบับของดินแม่น้ำ และที่สำคัญทุกองค์จะต้องมี คือ เม็ดมวลสาร สีขาวขุ่น ลักษณะเป็นผลึกบ้าง เป็นเนื้อฟูๆบ้าง ซึ่งผลึกขาวขุ่นนี้ ภาษาพระเรียก แกลบขาว ซึ่งปรากฏอยู่กับพระเนื้อดินที่สร้างช่วงปี ๒๔๗๐ ของหลายเกจิในยุคนั้น เช่น พระเนื้อดินของหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด จังหวัดอยุธยา หรือหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี หรือแม้แต่พระนางพญากรุวัดเวียงอยุธยาก็มีผงประเภทนี้ผสมอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ คงเรียก แกลบขาว แต่ผลึกที่เป็นผงฟูๆ นี้เป็นผงอิทธิเจเก่าสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ได้มาจากวัดสัมฤทธิ์ ที่หลวงพ่อผาดนำไปจากลพบุรีเพื่อผสมลงในเนื้อพระที่ได้จัดสร้างขึ้นซึ่งผงขาวนี้เป็นความต่างจากพระของหลวงพ่อปานประการหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะกล่าวถึงในเรื่องผงวัดสัมฤทธิ์นี้ต่อไป
พระทรงเสือและทรงสิงห์ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธ นั่งสมาธิขัดเพชร บนฐานสูง มีเส้นซุ้มล้อมรอบ(คล้ายกับพระพิมพ์ประภามณฑลของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่ายุคต้นๆ) เบื้องล่างเป็นรูปสัตว์มีอยู่สองชนิดคือ ทรงเสือและทรงสิงห์ ด้านบนขององค์พระมีรูเจาะและอุดผงพุทธคุณปิดด้วยซีเมนต์อีกชั้นหนึ่งคล้าย กับพระพิมพ์ของหลวงพ่อปาน บางองค์จะมีการทาชาดแดงทับก่อนปิดด้วยซีเมนต์อีกชั้นหนึ่งก็มี ด้านหลังและขอบด้านข้างส่วนใหญ่จะมีรอยปาด รอยตัดเข้ารูป หรือบางองค์ด้านหลังก็มีรอยนิ้วมือของผู้กดพิมพ์ปรากฏอยู่ สัณฐานพระเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมตัดมุมหรือแปดเหลี่ยมเหมือนพระของหลวงพ่อปานเลยทีเดียว ส่วนผงที่อุดรูผงนั้นเป็นผงที่ได้จากการเขียนยันต์และบริกรรมคาถากำกับแต่ละ บทที่มีพุทานุภาพอันทรงประโยชน์เช่น ยันต์เกราะเพชร แล้วลบออก แล้วเขียนซ้ำใหม่แบบนี้หลายๆครั้งจนได้ผงวิเศษออกมาโดยหลวงพ่อปานแห่ง วัดบางนมโค นอกจากพิมพ์ทรงเสือและสิงห์แล้วยังพบพระเนื้อดินเผาพิมพ์สมเด็จคะแนน ขนาดเล็กด้านหน้าเป็นรูปพระประธาน ด้านหลังเรียบ บางองค์ก็เป็นหลังประทุน ด้านบนเจาะรูอุดผง ซึ่งเป็นพระคะแนนนับจำนวน คาดว่าน่าจะมีประมาณ ๘๔๐ องค์ และพระพิมพ์รูปนางกวักสร้างจากเนื้อผงพุทธคุณล้วนๆ โดยมีทั้งผงของหลวงพ่อปานและผงที่ได้จากวัดสุทัศน์เป็นมวลสารหลัก ที่เหลือคือผงเก่าจากวัดสัมฤทธิ์ แต่นางกวักนี้มีจำนวนไม่มากนัก ประมาณ ๑ กระบุง(คาดว่าน่าจะประมาณหนึ่งพันองค์เศษ)

ประวัติ
วัดดงตาล (วัดสามัคคีธรรม) ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เดิมเป็นวัดร้าง ได้บูรณะขึ้นใหม่เมื่อสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมา หมอผาด เกษตรง เจ้าของร้านขายยาพระอาทิตย์เวชโอสถ บางลำพู กรุงเทพฯ ได้มาเป็นผู้นำในการสร้างอุโบสถ และหล่อพระประธานขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗

หมอ ผาด เป็นผู้มีความรู้ทางวิชาอาคม ในการหุงน้ำมันมนต์ และปรุงยาโบราณ ขณะเดียวกันก็มีความคุ้นเคยกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดียิ่ง จึงได้ขอให้หลวงพ่อปานช่วยสร้างพระเครื่อง สำหรับบรรจุกรุในพระอุโบสถตามธรรมเนียมประเพณีนิยมแห่งการสร้างพระอุโบสถมา แต่โบราณ

หลวงพ่อปาน จึงได้สร้างเป็นพระพิมพ์ พระพุทธรูปประทับสิงห์พิมพ์หนึ่ง ประทับเสือพิมพ์หนึ่ง และพระสมเด็จคะแนนเป็นพระเนื้อดินขนาดเล็ก ตัดขอบ ด้านบนเจาะบรรจุผงวิเศษ แบบเดียวกับพระที่ท่านสร้างขึ้นที่วัดบางนมโค รวมทั้งนางกวักเนื้อผงล้วนๆอีกพิมพ์หนึ่ง

หลังจากหลวงพ่อปานปลุกเสก พระชุดนี้ทั้งหมดแล้ว ก็มอบให้หมอผาดนำใส่กล่องไม้ลงเรือล่องมาตามแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา มาขึ้นที่คลองหลังวัดดงตาล

ต่อมาหมอผาดได้บวชเป็นพระภิกษุ จำพรรษาอยู่ที่วัดดงตาล เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก เพราะหมอผาดเป็นพระหมอที่เก่งในการรักษาโรคกระดูก โรคเส้น ฯลฯ ด้วยน้ำมนต์ และมีดโต้ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับรักษาโรคประจำตัว จนได้ฉายาว่า หลวงพ่อผาด มีดโต้

เมื่อท่านสร้างอุโบสถวัดดงตาลแล้วเสร็จ จึงได้นำพระพิมพ์ประทับหลังสิงห์และเสือ บรรจุไว้บนฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระประธาน ซึ่งหล่อด้วยโลหะขึ้นประดิษฐานครอบไว้ จากนั้นจึงก่ออิฐถือปูน เป็นบัวคว่ำคตอยไว้